อย่างไรก็ตาม เมื่อเทียบกับผลประกอบการไตรมาส 1/57 อาจมีแนวโน้มลดลง เนื่องจากปกติไตรมาส 2 เป็นช่วงโลซีซั่นของธุรกิจ และมีวันหยุดจำนวนมาก โดยจะฟื้นตัวได้ดีที่สุดในช่วงไตรมาส 4 ของทุกปี
สำหรับรายได้ในปีนี้ยังเคงเป้าหมายที่จะเติบโตอยู่ที่ 10% และคาดว่ากำไรปีนี้จะดีกว่าปีก่อนอยู่ที่ 392.84 ล้านบาท และอัตรากำไรขั้นต้นน่าจะเติบโตได้ 10% เนื่องจากบริษัทได้รับงานจากภาคเอกชนเพิ่มขึ้น ขณะที่งานภาครัฐและงานส่วนราชการท้องถิ่นเริ่มกลับเข้ามามากขึ้น ขณะที่ปัจจุบันมีงานในมือ(Backlog) อยู่ที่ 1,860 ล้านบาท ซึ่งจะมีการทยอยรับรู้ปีนี้ราว 60% และที่เหลืออีก 40% ที่จะทยอยรับรู้รายได้ในปี 58 ขณะเดียวกันคาดว่างานในมือทั้งปีจะเพิ่มเป็น 2,900 ล้านบาท
ส่วนของการลงทุน บริษัทฯวางงบลงทุนไว้ 100-200 ล้านบาท เพื่อให้ในการปรับปรุงเครื่องจักร ขยายไลน์การผลิต และเพิ่มประสิทธิภาพบุคคลากร โดยบริษัทมีแผนการลงทุนดังกล่าวทุกปี ซึ่งต้องมีการขยายกำลังการผลิต เพื่อรองรับออเดอร์ใหม่ที่จะมีเข้ามา
อย่างไรก็ดี บริษัทอยู่ระหว่างการเจรจาร่วมทุนกับหลายธุรกิจ ซึ่งมีทั้งที่ติดต่อเข้ามาและบริษัทไปเจรจา โดยในเบื้องต้นยังไม่ขอเปิดเผยข้อมูล
"คสช.เข้ามาเรียกความเชื่อมั่นของเอกชนได้ดีขึ้น ซึ่งมีการติดต่องานเข้ามามากขึ้นกว่าที่ผ่านมา เราก็มองว่าเศรษฐกิจภาพรวมจะปรับตัวดีขึ้นในช่วงครึ่งหลังนี้ และบีโอไอก็น่าจะเข้ามาช่วยส่งเสริมการลงทุนเหมือนกัน โดยเราก็คาดว่าทั้งปีน่าจะเติบโตได้ 10%"นายอาทิตย์ กล่าว