UV ตั้งเป้าปีนี้อัตรากำไรขั้นต้นที่ 24-25%จาก 21% ปีก่อนจากโครงการใหม่

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday May 29, 2014 12:40 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายวรวรรต ศรีสอ้าน กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ยูนิเวนเจอร์ (UV) เปิดเผยว่า บริษัทยังคงเป้าหมายรายได้ในปีนี้ที่ 9 พันล้านบาท เติบโต 50% จากปีก่อน โดยรายได้หลักมาจากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อขาย 6 พันล้านบาท ซึ่งมียอดขายรอโอน (Backlog) จากโครงการแนวสูง 3 พันล้านบาท และแนวราบ 1.3 พันล้านบาท หรือ 70% ของรายได้รวม ขณะเดียวกันตั้งยอดพรีเซล 8.5 พันล้านบาท จากแนวราบ 2,100 ล้านบาท แนวสูง 6.4 พันล้านบาท

นอกจากนี้มาจาก รายได้จากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อให้เช่า 1,330 ล้านบาท และธุรกิจผลิตสังกะสีออกไซด์ 1.3 พันล้านบาท คาดเป็นสัดส่วน 15% และ 14% ตามลำดับ

ทั้งนี้ บริษัทตั้งเป้าอัตรากำไรขั้นต้น (Gross Profit Margin) อยู่ที่ 24-25% จากปีที่แล้วอยู่ที่ 21% และในไตรมาส 1/57 ขยับขึ้นมาที่ 22% เนื่องจากอัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นมาจากโครงการใหม่ อีกทั้งมีการควบคุมต้นทุนด้วย

ในปีนี้กำไรจะดีกว่าปีก่อน จากรายได้ที่เพิ่มขึ้น และยังมีกำไรพิเศษจากบมจ.แผ่นดินทอง พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ (GOLD) ที่ทยอยขายที่ดินออกไป โดยไตรมาส 2 นี้จะได้รับกำไรจากการขายที่ย่านหัวหมาก และยังมีอีก 3 แปลง ที่เตรียมทยอยขายได้แก่ สนามกอล์ฟที่นครราชสีมา ที่ดินในจ.กระบี่ และ จ.ประจวบฯ

สำหรับงบซื้อที่ดินในปีนี้ บริษัทตั้งงบประมาณไว้ที่ 3.8 พันล้านบาท แบ่งเป็นงบโครงการแนวสูง 1 พันล้านบาท ซึ่งใช้ไปแล้วในโครงการ ยู ดีไลท์ ท่าพระ-ตลาดพลู จำนวน 400 ล้านบาท ส่วนอีก 2.8 พันล้านบาทสำหรับโครงการแนวราบ ซึ่งอยู่ภายใต้การบริหารของ GOLD ซึ่งใช้ไปแล้ว 900 ล้านบาท

นายวรวรรต กล่าวว่า ในไตรมาส 2 จนถึงไตรมาส 4 ปีนี้ บริษัทจะไม่เปิดโครงการใหม่แล้ว การซื้อที่ดินไว้เตรียมพัฒนาในปีหน้า โดยในไตรมาส 1/57 ได้เปิดโครงการใหม่ไป 3 โครงการซึ่งเป็นโครงการที่ใหญ่มาก ทั้งนี้ได้ปรับวิธีการขายโดยทยอยเปิดขาย และจะเปิดขาย 3 โครงการดังกล่าวต่อไปในช่วงแวลาที่เหลือของปีนี้ เพราะมองเห็นสภาวะตลาดอสังหาริมทรัพย์ชะลอตัว

"ไตรมาส 1 ไตรมาส 2 ผู้ประกอบการทุกรายโดนเหมือนกันหมด การเมืองทำให้ตลาดอึมครึม เรายังไม่ launch สินค้าใหม่ เราต้องดูปัจจัยต่างๆ ทำโปรโมชั่น ไปก็ไม่ได้ผล...เชื่อว่าไตรมาส 3-4 น่าจะมีการกระตุ้นเศรษฐกิจ ตอนนี้สถานการณ์คลี่คลาย เชื่อว่าในไตรมาส 3-4 เป็นไตรมาสที่แข่งขันสูง ก็จะมีโปรโมชั่นออกไป เศรษฐกิจน่าจะดีขึ้นจากความชัดเจนของสถานการณ์น่าจะทำให้มีความมั่นใจของผู้ซื้อมากขึ้น"นายวรวรรต กล่าว

อย่างไรก็ดี บริษัทยังคงโฟกัสโครงการอสังหาริมทรัพย์ทั้งแนวราบแนวสูงในกรุงเทพก่อน เพราะกังวลเรื่องคุณภาพของบ้านจะกระทบกับแบรนด์ได้ที่ปัจจุบันได้รับการยอมรับ จึงยังไม่มีแผนขยายโครงการไปหัวเมืองใหญ่โดยเฉพาะในเมืองท่องเที่ยว หากจะทำต้องเตรียมความพร้อมให้ดีเสียก่อน

สำหรับการจัดตั้งกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่า (REIT)นั้น นายวรวรรต กล่าวว่า ยังอยู่ระหว่างการศึกษาอยู่ และต้องดูสภาวะตลาดด้วย ยอมรับว่าเป็นสิ่งใหม่สำหรั้บบริษัท และต้องพิจารณาข้อดีข้อเสีย และยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะนำสินทรัพย์ใดเข้ากอง REIT โดยปัจจุบันบริษัทมีอาคาสำนักงานให้เช่าอยู่ 3 แห่ง ได้แก่ อาคารปาร์คเวนเชอร์ (UV) มีอัตราการเข่า 100% ณ สิ้นไตรมาส 1/57 อาคารสาทร สแควร์ (GOLD บริหาร) มีอัตราการเช่า 77% และ อาคารโกลเด้นแลนด์ ทาวเวอร์ (GOLD บริหาร( มีอัตราการเช่า 91% ณ สิ้นไตรมมาส 1/57

นอกจากนี้ GOLD ยังอยู่ระหว่างพัฒนาโครงการ FYI Center ซึ่งตั้งอยู่ใกล้ศูนย์ประชุมสิริกิติ์บนพื้นที่ 8 ไร่ เป็นโครงการอาคารสำนักงานและโรงแรม มี 2 อาคาร มูลค่าโครงการ 6 พันล้านบาท โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จ ไตรมาส 1 ปี 2560 โดยเจาะกลุ่มลูกค้ากลุ่ม B+ ถึง กลุ่ม A- ส่วนโรงแรมนำเชนชื่อ"Madana"เป็นระดับ 3-4 ดาว เข้ามาบริหาร

สำหรับธุรกิจสังกะสีออกไซด์ ในปีนี้บริษัทคาดว่าจะมีปริมาณขาย 1.8 หมื่นตัน จากปีก่อนที่ขายได้ 1.6 หมื่นตัน โดยปีนี้จะเพิ่มการส่งออกเป็น 20% จากปีก่อน 16% โดยแนวโน้มราคาผันผวนในแนวสูง โดยปัจจุบันราคาสังกะสีอยู่ที่ 2,080 เหรียญ/ตัน สูงกว่าปีก่อนที่มีราคาเฉลี่ย 1,950 เหรียญ/ตัน ทั้งนี้บริษัทขายล่วงหน้าไปแล้ว 60%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ