สำหรับ พันธบัตรรัฐบาล รุ่นที่นิยมซื้อขายสูงสุดในวันนี้คือ พันธบัตรรุ่น LB196A, LB21DA และ LB176A (รุ่นอายุ 5.1 ปี, 7.6 ปี และ 3.1 ปี ตามลำดับ) โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 10,156 ล้านบาท หรือคิดเป็น 77% ของมูลค่าการซื้อขายพันธบัตรรัฐบาลทั้งหมด ทางด้าน หุ้นกู้เอกชน รุ่นที่นิยมซื้อขายสูงสุด 3 อันดับแรกในวันนี้ คือ
1. หุ้นกู้บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) (CPF185A) มูลค่า 141.2 ล้านบาท
2. หุ้นกู้ของ บริษัท อยุธยา แคปปิตอล ออโต้ ลีส จำกัด (มหาชน) (AYCAL155A) มูลค่า 54.9 ล้านบาท
3. หุ้นกู้ไม่มีประกันของบริษัท น้ำตาลขอนแก่น จำกัด (มหาชน) (KSL14DA) มูลค่า 54.3 ล้านบาท
โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 250.5 ล้านบาท หรือคิดเป็น 55.1% ของมูลค่าการซื้อขายหุ้นกู้เอกชนทั้งหมดในวันนี้
ทางด้านประเภทของนักลงทุน ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงที่สุดเป็น 2 อันดับแรกในวันนี้ คือ
1. กลุ่มบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) มียอดซื้อสุทธิ เท่ากับ 7,730 ล้านบาท
2. กลุ่มบริษัทจดทะเบียนในประเทศ มียอดซื้อสุทธิ เท่ากับ 12,481 ล้านบาท
ในขณะที่นักลงทุนต่างชาติ มียอดขายสุทธิ เท่ากับ -4,091 ล้านบาท
ผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลอายุ 3 เดือน ปิดที่ 2.03% ไม่มีการเปลี่ยนแปลงจากเมื่อวาน และผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลอายุ 5 ปี ปิดที่ 3.14% ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเมื่อวาน 0.03%
Yield Curve ปรับเพิ่มขึ้น ในตราสารอายุ 3 ปีขึ้นไป ประมาณ 1-3 bps. การประมูลพันธบัตร ธปท.ระยะสั้นวันนี้ จำหน่ายได้ต่ำกว่าวงเงินประมูลเล็กน้อย (29,856 ล้านบาท จากวงเงินประมูล 30,000 ล้านบาท) ด้านตลาดยังคงติดตามตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ซึ่งล่าสุด GDP ไตรมาส 1/57 ของสหรัฐฯ หดตัว 1.0% มากกว่า ที่ตลาดคาดไว้ที่ -0.5% สำหรับนักลงทุนต่างชาติ วันนี้มีแรงขายในพันธบัตรระยะสั้น ยอดขายสุทธิ (NET SELL) เท่ากับ 4,091 ล้านบาท