ในขณะนี้นโยบายของ คสช. ที่เริ่มต้นตั้งแต่อนุมัติให้มีการจ่ายเงินกับชาวนาค่าจำนำข้าวที่ติดค้างชาวนาอยู่ ก็เชื่อว่ามีส่วนช่วยกระตุ้น ทำให้เศรษฐกิจโดยรวมดีขึ้น เพราะสามารถช่วยเพิ่มกำลังซื้อให้ช่วยเพิ่มขึ้น และหากยิ่งนโยบายปัดฝุ่น เดินหน้าโครงการเมะโปรเจกต์ โดยเฉพาะ โครงการสาธารณูปโภค 2 ล้านล้านบาท เชื่อว่าจะมีส่วนช่วยกระตุ้นทำให้กำลังซื้อโดยรวมเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจด้านการก่อสร้าง ซึ่งจะมีผลต่อบริษัทฯอย่างแน่นอน
ที่ผ่านมายอมรับเศรษฐกิจในประเทศที่ชะลอตัวลง มีผลทำให้กำลังซื้อในปีนี้ชะลอตัวลง โดยเฉพาะตลาดหลอดไฟในประเทศได้รับผลกระทบบ้าง อย่างไรก็ตามบริษัทได้ปรับกลยุทธ์ในการดำเนินงาน โดยขยับไปเน้นการส่งออกตลาดในอาเซียน ซึ่งถือเป็นการเตรียมพร้อมของบริษัท ในการเปิดตลาดเสรี ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) โดยมองว่าโอกาสที่ทางบริษัทมีแนวโน้มที่จะเติบโตได้ดี หลังจากการเปิดตัว AEC อย่างเป็นทางการ โดยเราจะมุ่งเน้นไปที่ในตลาดประเทศพม่า ลาว กัมพูชา เวียดนาม โดยเฉพาะประเทศพม่า ถือได้ว่าเป็นประเทศที่เราให้ความสำคัญมากสุด เนื่องจากเศรษฐกิจของพม่ากำลังขยายตัว โดยเฉพาะการก่อสร้างอาคารใหม่ โรงแรม หรือสาธารณูปโภคอื่น ซึ่งจำเป็นต้องใช้ผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ อาทิ โคมไฟ หลอดไฟ ที่ใช้ตามถนน หรือ อาคาร โรงแรม โดยตั้งเป้าหมายสัดส่วนรายได้ส่งออกในต่างประเทศเพิ่มเป็น 20% จากปัจจุบันสัดส่วนรายได้ดังกล่าวอยู่ 15% ส่วนที่เหลืออีก 85% เป็นรายได้ขายได้ในประเทศ
บริษัทมีการเพิ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ เข้าสู่ตลาด เป็นผลิตภัณฑ์หลอดไฟ LED ซึ่งหลอดไฟ LED ถือเป็นหลอดไฟนวัตกรรมใหม่ล่าสุดเมื่อเปรียบเทียบกับ หลอดไฟ LED ตามท้องตลาด โดยหลอดไฟ LED ของบริษัทฯ ภายใต้แบรนด์ GATA ถือได้ว่ามีความประหยัดพลังงานสูงสุด ปลอดภัย ไม่มี UV และสารปลอท ถือว่าเป็นสินค้าคุณภาพสูง ที่ผู้บริโภคสามารถหาซื้อได้ รวมถึงราคาที่ไม่แพงจนเกินไป จึงเชื่อว่าน่าจะได้รับการตอบรับที่ดี จากตลาดหลอดไฟอย่างแน่นอน