(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้าลุ้นขึ้นความเชื่อมั่นดีขึ้น-บาทอ่อนไม่มาก-ต่างชาติซื้อ

อย่างไรก็ดี ตลาดฯก็มีโอกาสที่จะแกว่งผันผวนได้ เมื่อดัชนีฯได้มีการปรับตัวขึ้นทดสอบแนว 1,450 จุด เนื่องจากมองว่าคงจะมีทริกเกอร์ ฟันด์ บางรายได้ถึงเป้าหมายที่ตั้งไว้ ก็ทำให้อาจมีแรงขายออกมาได้บ้าง

ด้านตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่จะแกว่งทั้งในทั้งในแดนบวก-ลบ โดยตลาดอินโดนีเซีย และตลาดฟิลิปปินส์ ได้ปรับตัวขึ้น ทั้งนี้ตัวเลขเศรษฐกิจทั้งของจีน และสหรัฐฯต่างออกมาอยู่ในเกณฑ์ที่ดี โดยเช้านี้ตัวเลข PMI ภาคบริการของจีนได้ออกมาดี พร้อมให้รอดูการประชุม ECB ในวันพฤหัสนี้

พร้อมให้แนวรับ 1,417-1,426 จุด แนวต้าน 1,450-1,470 จุด

ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :

• ตลาดหุ้นนิวยอร์ควานนี้(2 มิ.ย.)ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 16,743.63 จุด เพิ่มขึ้น 26.46 จุด (+0.16%), ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 1,924.97 จุด เพิ่มขึ้น 1.40 จุด(+0.07%),ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 4,237.20 จุด ลดลง 5.42 จุด(-0.13%)
• ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้านี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 153.12 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 0.01 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 245.86 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 30.70 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 4.31 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 1.82 จุด และดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 2.12 จุด
• ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด(2 มิ.ย.) ที่ 1,440.94 จุด เพิ่มขึ้น 25.21 จุด(+1.78%)
• นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 2,672.29 ล้านบาท เมื่อวันที่ 2 มิ.ย.57
• ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด(2 มิ.ย.)ที่ 102.47 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 24 เซนต์
• ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด(2 มิ.ย.)ที่ 5.84 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
• เงินบาทเปิดตลาดที่ 32.82/84 กลับมาแข็งค่า
• "ประยุทธ์"สั่งทำแผนเบิกจ่ายงบปี 2557 ค้างท่อเสนอภายใน 2 สัปดาห์ ยึดโปร่งใสตรวจสอบได้ พร้อมให้เตรียมโครงการลงทุนปี 2558 ยันเดินหน้าลงทุนโครงการรถไฟรางคู่ ขณะรถไฟความเร็วสูงขอศึกษาผลดี-ผลเสีย เล็งส่งทหารทำโครงการบริหารจัดการน้ำชี้ต้นทุนต่ำเสร็จตามระยะเวลา
• คสช.เร่งบีโอไอ ส่งรายชื่อบอร์ดวันพุธนี้ คาดใช้เวลาอนุมัติโครงการขอส่งเสริมกว่า 7 แสนล้านบาทภายใน 2 เดือน พร้อมลดเวลาออกใบ ร.ง.4 เหลือ 30 วัน เดินหน้า โซลาร์รูฟท็อป ขนาดต่ำกว่า 1 เมกะวัตต์ ไม่ต้องขอ ร.ง.4 แย้มเดือนนี้ปรับบอร์ดรัฐวิสาหกิจ
• "ปิยสวัสดิ์"หนุน คสช.ตรึงราคา"ดีเซล-แอลพีจี"ครัวเรือนชั่วคราว พร้อมเสนอปรับโครงสร้างราคาพลังงานทั้งระบบเพื่อสะท้อนต้นทุนแท้จริง แนะโละบอร์ดรัฐวิสาหกิจระบุไม่ควรให้ปลัดกระทรวงและอธิบดีที่มีบทบาทกำกับดูแลนั่งบอร์ด หวั่นเกิดประโยชน์ทับซ้อน พลังงานแจ้งผู้ค้าห้ามปรับราคาแอลพีจี
• มูดี้ส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิสบริษัทจัดอันดับเครดิตรายใหญ่ของโลก ประกาศคงอันดับเครดิตพันธบัตรระยะยาวของไทยไว้ที่ระดับ Baa1 พร้อมแนวโน้มมีเสถียรภาพ โดยเห็นว่าพื้นฐานเศรษฐกิจไทยแข็งแกร่ง สามารถต้านทานปัจจัยเสี่ยงทางการเมืองได้
• กระทรวงพาณิชย์แถลงดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไปของประเทศหรือเงินเฟ้อในเดือน พ.ค.57 ขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 107.90 ถือว่าสูงขึ้น 2.62% เมื่อเทียบกับเดือนพ.ค.56 ถือเป็นอัตราการขยายตัวสูงสุดในรอบ 14 เดือน นับตั้งแต่เดือน มี.ค.56
• ประธานสมาคมธนาคารไทยในฐานะประธานคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน(กกร.)เปิดเผยภายหลังการประชุม กกร.ว่าเศรษฐกิจไทยในปีนี้มีโอกาสโตได้ 2.0-2.5% จากการบริโภคที่น่าจะฟื้นตัว จากมาตรการเร่งจ่ายเงินโครงการจำนำข้าวให้ชาวนา 9.2 หมื่นล้านบาทที่จะแล้วเสร็จในเดือน มิ.ย.นี้
• พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง ผบ.ทอ.รองหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) และหัวหน้าฝ่ายเศรษฐกิจ เปิดเผยหลังการหารือกับคณะผู้บริหารกระทรวงอุตสาหกรรมว่า งานเร่งด่วนของกระทรวงอุตสาหกรรมที่ คสช.ให้ความสำคัญมากที่สุดในขณะนี้ คือ การตั้งคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน(บอร์ดบีโอไอ)ซึ่งได้มอบหมายให้ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรมร่วมกับเลขาธิการบีโอไอไปจัดทำรายชื่อกรรมการเพื่อเสนอต่อฝ่ายเศรษฐกิจคสช.ในวันที่ 3 มิ.ย.นี้ เพื่อเสนอให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. หัวหน้า คสช.พิจารณาในวันที่ 4 มิ.ย.นี้ และคาดว่าจะตั้งบอร์ดได้ภายในสัปดาห์นี้

*หุ้นเด่นวันนี้

• บล.ฟินันเซีย ไซรัส ระบุว่า รายชื่อหุ้นที่จะนำเข้า-เอาออก SET50 และ SET100 เริ่มใช้ 2 ก.ค.-31 ธ.ค.57 สำหรับ SET50 เข้าใหม่ ได้แก่ KKP และ M ส่วนหุ้นเอาออก ได้แก่ CK และ THAI สำหรับ SET100 เข้าใหม่ ได้แก่ ANAN, BJCHI, DEMCO, M, MC, MEGA, NOK, NYT, SUPER, THREL และ UMI ส่วนหุ้นเอาออก ได้แก่ CHG, DCC, JMART, MBK, N-PARK, SC, SF, SSI, SVI, TASCO และ THRE ทั้งนี้ ตลาดฯประกาศรายชื่อกลาง มิ.ย.
• SUTHA(เคเคเทรด)"ซื้อ"เป้า 7.50 บาท ปรับประมาณการกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นราว 40% สะท้อนผลงาน 1Q57 ที่ออกมาโดดเด่น และมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องช่วงที่เหลือของปีจากอุปสงค์ฟื้นตามอุตสาหกรรมก่อสร้าง ส่วนธุรกิจในต่างประเทศจะเริ่มมีรายได้จากธุรกิจบริการจำหน่ายและติดตั้งอุปกรณ์ในการผลิตปูนขาวให้กับพันธมิตรใหม่ในอินโดนีเซีย รวมถึงการหาโอกาสที่จะมีงานบริการในอีกหลายๆประเทศที่กำลังมีความต้องการใช้ปูนขาวในหลายอุตสาหกรรม
• JAS(เคเคเทรด)"ซื้อ"เป้า 11.20 บาท ราคาหุ้นปรับขึ้นเพียง 4% ใกล้เคียงกลุ่มสื่อสารและ SET แต่ยังน้อยกว่าราคาหุ้น TRUE ที่ขึ้นแรงกว่า 10% เชื่อมีสาเหตุจากความกังวลต่อการจัดตั้ง IFF ล่าช้าจากกำหนดกลางปีนี้ มองเป็นเพียงผลกระทบเชิงจิตวิทยาต่อราคาหุ้นและไม่กระทบปัจจัยพื้นฐาน เนื่องจากยังไม่รวม IFF ในประมาณการ คาดผลงานจากธุรกิจปกติปีนี้จะมีกำไร 3,289 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10% YoY คงสมมติฐานประเมิน IFF มูลค่า 6-7 หมื่นล้านบาทคาดว่มีมูลค่าต่อหุ้นเพิ่มราว 0.90 บาท
• IFEC(เมย์แบงก์ กิมเอ็ง)"ซื้อ"เป้า 4.00 บาท จัดประชุมผู้ถือหุ้นวันนี้เชื่อเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญและคาดว่าจะโหวตอนุมติขายธุรกิจเดิมเพื่อปรับโครงสร้างเข้าสู่ธุรกิจพลังงานทดแทนเต็มตัว จะได้เงินจากขายธุรกิจเดิม 600 ล้านบาท และคาดบันทึกกำไรพิเศษ(หลังภาษี)ราว 112 ล้านบาทใน 3Q57 เมื่อรวมเงินสดในมือ 700 ล้านบาทจะส่งผลให้มีเงินสดราว 1,300 ล้านบาทเพียงพอต่อการลงทุนโรงไฟฟ้าชีวมวล,โซลาร์ฟาร์ม,โซลาร์รูฟ 30MW ราคาหุ้นปัจจุบันยังไม่สะท้อนการเติบโตก้าวกระโดดในปี 58