หุ้น HEMRAJ อยู่ที่ 3.82 บาท เพิ่มขึ้น 0.16 บาท(+4.37%)มูลค่าซื้อขาย 144.08 ล้านบาท
หุ้น ROJNA อยู่ที่ 7.20 บาท เพิ่มขึ้น 0.10 บาท(+1.41%)มูลค่าซื้อขาย 3.86 ล้านบาท
หุ้น TICON อยู่ที่ 16.40 บาท เพิ่มขึ้น 0.60 บาท(+3.80%)มูลค่าซื้อขาย 77.19 ล้านบาท
หุ้น WHA อยู่ที่ 30 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท(+1.69%)มูลค่าซื้อขาย 73.88 ล้านบาท
บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส ระบุในบทวิเคราะห์ฯว่า คสช.เร่งบีโอไอ ส่งรายชื่อบอร์ดวันพุธนี้ คาดใช้เวลาอนุมัติโครงการขอส่งเสริมกว่า 7 แสนล้านบาทภายใน 2 เดือน พร้อมลดเวลาออกใบ ร.ง.4 เหลือ 30 วัน เดินหน้าโซลาร์รูฟท็อป ขนาดต่ำกว่า 1 เมกะวัตต์ ไม่ต้องขอ ร.ง.4 แย้มเดือนนี้ปรับบอร์ดรัฐวิสาหกิจ
ซึ่งได้มองผลกระทบเป็นบวก กับหลักทรัพย์ในกลุ่มนิคมอุตสาหกรรม เมื่อมีความคลี่คลายในเรื่องโครงการขอส่งเสริมจากบีโอไอที่ค้างไว้ และโครงการเหล่านี้เริ่มดำเนินการก็มีความต้องการซื้อพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมเพื่อก่อสร้างโรงงาน หรือเช่าโรงงานและคลังสินค้า หากในช่วงแรกยังไม่พร้อมซื้อที่ดินใหม่ ส่วนยอดขอบีโอไอใหม่ที่ซบเซาลง
โดยคาดว่าเมื่อมีบอร์ดใหม่ และนักลงทุนต่างชาติมีการเรียนรู้และทำความเข้าใจถึงเรื่องการทำรัฐประหารในไทย ไม่ได้น่ากังวล แต่ช่วยลดความขัดแย้งของผู้ชุมนุมซึ่งหากปล่อยไปจะไม่มีทางออก และเป็นปัญหาค้างคาไม่จบสิ้น ก็จะทำให้ตัวเลขนี้กระเตื้องขึ้นได้ คาดว่า 2H57 จะมีเม็ดเงินลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ฟื้นตัวขึ้น ซึ่งจะส่งผลดีต่อไป
พร้อมแนะ"ซื้อ"หลักทรัพย์ที่เป็นผู้เล่นรายสำคัญในหมวดนิคมอุตสาหกรรม คือ AMATA (ราคาพื้นฐาน 18.00 บาท) และ HEMRAJ (ราคาพื้นฐาน 4.00 บาท) ส่วน ROJNA แนะนำ ถือ (ราคาพื้นฐาน 7.09 บาท) คลังสินค้าให้เช่าแนะนำ ซื้อ คือ WHA (ราคาพื้นฐาน 37.70 บาท) โรงงานสำเร็จรูปให้เช่าที่ได้ประโยชน์คือ TICON (not rated)