สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (ThaiBMA) สรุปภาวะตลาดตราสารหนี้ไทยวันนี้มีมูลค่าการซื้อขายรวม 77,500 ล้านบาท โดยประเภทของตราสารที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงที่สุด คือ พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย โดยมีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 44,671 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 57.6% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมดที่เกิดขึ้นในวันนี้ ลำดับถัดมาคือ พันธบัตรรัฐบาล มีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 23,997 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 31.0% ทางด้าน หุ้นกู้เอกชน มีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 2,287 ล้านบาท หรือคิดเป็น 3.0% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมด
สำหรับ พันธบัตรรัฐบาล รุ่นที่นิยมซื้อขายสูงสุดในวันนี้คือ พันธบัตรรุ่น LB236A, LB196A และ LB176A (รุ่นอายุ 9.0 ปี, 5.0 ปี และ 3.0 ปี ตามลำดับ) โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 19,912 ล้านบาท หรือคิดเป็น 83% ของมูลค่าการซื้อขายพันธบัตรรัฐบาลทั้งหมด ทางด้าน หุ้นกู้เอกชน รุ่นที่นิยมซื้อขายสูงสุด 3 อันดับแรกในวันนี้ คือ
1. หุ้นกู้ของบริษัท ไออาร์พีซี จำกัด(มหาชน)(IRPC147A) มูลค่า 296.8 ล้านบาท
2. หุ้นกู้มีประกันของบริษัท โกลว์ พลังงาน จำกัด(มหาชน)(GLOW175A) มูลค่า 259.6 ล้านบาท
3. หุ้นกู้บริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน)(PTTEP195A) มูลค่า 167.2 ล้านบาท
โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 723.6 ล้านบาท หรือคิดเป็น 31.6% ของมูลค่าการซื้อขายหุ้นกู้เอกชนทั้งหมดในวันนี้
ทางด้านประเภทของนักลงทุน ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงที่สุดเป็น 2 อันดับแรกในวันนี้ คือ
1. กลุ่มบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) มียอดซื้อสุทธิ เท่ากับ 13,063 ล้านบาท
2. กลุ่มบริษัทจดทะเบียนในประเทศ มียอดซื้อสุทธิ เท่ากับ 2,448 ล้านบาท
ในขณะที่นักลงทุนต่างชาติ มียอดซื้อสุทธิ เท่ากับ 6,763 ล้านบาท
ผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลอายุ 3 เดือน ปิดที่ 2.03% ไม่มีการเปลี่ยนแปลงจากเมื่อวานและผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลอายุ 5 ปี ปิดที่ 3.11% ไม่มีการเปลี่ยนแปลงจากเมื่อวาน
Yield Curve ค่อนข้างนิ่งในทุกช่วงอายุตราสารพันธบัตรรัฐบาล รุ่น Benchmark อายุ 10 ปีที่ประมูลวันนี้ได้รับความสนใจจากนักลงทุน 2.02 เท่าของวงเงินประมูล ด้านนักลงทุนจับตาตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ โดยเฉพาะตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร และผลการประชุม ECB วันที่ 5 มิ.ย.นี้ ว่าจะมีมาตรการผ่อนคลายทางการเงินเพิ่มเติมหรือไม่ สำหรับนักลงทุนต่างชาติมียอดซื้อสุทธิ (NET BUY) เท่ากับ 6,763 ล้านบาท(โดยเฉพาะรุ่นที่มีการประมูลวันนี้)