ขณะที่ในช่วงครึ่งปีหลังนี้มองว่าภาพอุตสาหกรรมก่อสร้างเสาเข็มโดยรวมจะเริ่มกลับมาฟื้นตัวดีขึ้น จากสถานการณ์ทางการเมืองเริ่มคลี่คลาย ซึ่งก็จะช่วยส่งผลดีแก่บริษัทฯด้วยเช่นกัน แม้ว่าที่ผ่านมาจะได้รับผลกระทบจากปัจจัยทางการเมืองไม่มากนักก็ตาม ทำให้บริษัทฯยังคงเป้าหมายรายได้ปีนี้เติบโต 10-20% จากปีก่อนมีรายได้อยู่ที่ 1,338.30 ล้านบาท และกำไรคาดว่าจะใกล้เคียงกับปี 56 ที่อยู่ที่ 138.22 ล้านบาท เนื่องจากปัจจุบันบริษัทฯมีงานในมือ (Backlog) อยู่ที่ 1.4-1.5 พันล้านบาท คาดว่าจะสามารถทยอยรับรู้รายได้เข้ามาในปีนี้จำนวน 1,000 ล้านบาท โดยจะมาจากงานโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว และโครงการทางด่วนศรีรัช ที่อยู่ระหว่างการดำเนินงานก่อสร้าง พร้อมทั้งบริษัทฯจะยังคงรักษาอัตรากำไรสุทธิ(Net Profit Margin)ที่ระดับไว้ที่ 11% ขณะเดียวกัน บริษัทฯจะมีการประมูลงานเพิ่มเข้ามาอย่างต่อเนื่องเพื่อเพิ่มงานหรือ Backlog ไว้สำหรับปีหน้าโดยจะเป็นงานประมูลงานเสาเข็มคอนโดมิเนียม อาคารสูง มูลค่างานราว 400-500 ล้านบาท
สำหรับงานในต่างประเทศบริษัทฯจะมีการรับงานในต่างประเทศมากขึ้น และยังคงเน้นงานในประเทศพม่า ซึ่งมองว่ายังมีแนวโน้มดีอยู่
ปัจจุบันมีสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศอยู่ที่ 10% และในประเทศอยู่ที่ 90% ซึ่งตั้งเป้าหมายจะมีการเพิ่มสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศเติบโตปีละ 10% และในอนาคตรายได้จากต่างประเทศกับในประเทศ เป็นสัดส่วน 50:50
"ปีนี้ก็ยังเหมือนเดิมตั้งเป้ารายได้โต 10-20% ซึ่งเราก็ไม่ได้นับผลกระทบอะไรมากนักหรือมีนัยสำคัญอะไร เนื่องจากเราไม่ใช่บริษัทฯที่รับเหมาโดยตรง และงานที่มีอยู่ก็ยังมีให้ทำเต็มปี และก็จะยังเข้าไปรับงานเพิ่มอีกเพื่อให้มีงานทำในปีหน้า ส่วนการขยายงานไปต่างประเทศเราก็มีไปพม่า และก็ขอทำในพม่าไปก่อน จากที่แนวโน้มต่างๆยังดีอยู่ ซึ่งยังมีพื้นที่อีกหลายพื้นที่ให้เราเข้าไปได้ ซึ่งในอนาคตที่ว่าจะขยายไปประเทศอื่นๆอีก เราก็ค่อยๆดูไป" นายณรงค์กล่าว