การเปิดตัวช่องโฮมช้อปปิ้งในครั้งนี้ เพื่อนำเสนอสินค้าเอสเอ็มอีของประเทศมาเลเซียให้เป็นที่รู้จักของประชาชนในประเทศดังกล่าวและเตรียมส่งออกไปใน Network ของ TVD นำเสนอสินค้าของ TVD ที่มาจากภูมิภาคอินโดไชน่าและเอเชียให้เข้าสู่ตลาดโฮมช้อปปิ้งในมาเลเซียและเพื่อเป็นการยกระดับการครองชีพ หรือ Standard of living ให้ผู้บริโภคได้มีช่องทางและทางเลือกในการช้อปปิ้งมากขึ้นกว่าเดิม
บริษัทมีความมั่นใจในศักยภาพของ Telekom Malaysia และ Unifi Internet ที่จะทำให้ HYPP TV มีสมาชิกเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องและมั่นใจในการลงทุนในประเทศมาเลเซีย รวมไปถึงผู้ซื้อ ผู้บริโภคในมาเลเซียเพราะมียอดขายอย่างน้อย 2% จากภาคใต้ที่เป็นการสั่งซื้อจากคนมาเลเซียดังนั้นจึงมั่นใจว่าสินค้าที่นำเสนอนั้นจะตรงกับความต้องการของผู้บริโภคในพื้นที่ดังกล่าว
สำหรับเป้าหมายรายได้ในปีนี้บริษัทยังคงคาดว่าจะทะลุ 2,500 ล้านบาท หรือเติบโต 15% จากปี 2556 ที่มีรายได้อยู่ที่ 2,231.25 ล้านบาท ขณะที่อัตรากำไรสุทธิ (Net Profit Margin) คาดว่าจะทำได้ 4.5-5.5% ตามเป้าหมายที่วางไว้ เนื่องจากมีร้านค้าปลีกถึง 77 สาขาใน 40 จังหวัด รวมทั้งมีช่องทางจำหน่ายสินค้าผ่านโมเดิร์นเทรด ทั้ง บิ๊กซี ,เทสโก้โลตัส,แม็คโคร,ท็อปส์, ซูเปอร์มาร์เก็ต และเซเว่น อีเลฟเว่น
ด้าน Mr.Jeremy Kung CEO, TM Net Sdn Bhd เปิดเผยว่า “Internet Protocol Television หรือ IPTV คือการนำเอาเทคโนโลยีโทรทัศน์มาประยุกต์ใช้ซึ่งแต่เดิมการเผยแร่ที่เรารู้จักนั้นคือการเผยแพร่สัญญาณภาพและเสียงผ่านคลื่นความถี่
แต่สำหรับ IPTV นั้นคือการนำเอาเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงผ่านเครือข่ายบรอดแบนด์ที่ครอบคลุมอยู่ทั่วประเทศ โดยการร่วมมือกับ TVD (มาเลเซีย) เปิดตัวช่อง TV Direct Showcase ในครั้งนี้คาดว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้บริโภคในประเทศมาเลเซียและจะช่วยขยานฐานลูกค้าให้เพิ่มมากขึ้นเพราะเป็นช้องช้อปปิ้ง 24 ชั่วโมง เจ้าแรกในประเทศมาเลเซียอีกด้วย