สำหรับอัตรากำไรสุทธิบริษัทฯคาดว่าจะใกล้เคียงกับปีก่อนที่อยู่ที่ 9.42% ขณะที่ไตรมาส 1/57 มีอัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ 10.4% เนื่องจากงานที่รับมาเป็นงานที่มีมาร์จิ้นที่สูง
นายศิริพงษ์ มองว่าหลังจากที่มีคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ซึ่งมีการดำเนินนโยบายต่างๆที่ช่วยให้เศรษฐกิจมีการขับเคลื่อนไปได้ และมีการอนุมัติงบประมาณปี 58 เกิดขึ้น ทำให้บริษัทฯมองว่าในปีหน้าจะเป็นปีที่สดใส ซึ่งจากการที่มีงบประมาณออกมาจะทำให้งานภาครัฐทยอยออกมามากขึ้น โดยบริษัทฯมีสัดส่วนงานภาครัฐถึง 90%
"ปีนี้ก็ยังเหมือนเดิมไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง เป้ารายได้ก็น่าจะทำได้ที่ 6,200 ล้านบาท เราจึงมองว่าปีหน้าจะเป็นปีที่สดใส จากที่ คสช.อนุมัติงบ และมีการวางแผนได้ดีกว่าปกติ ทำให้เราสบายใจขึ้น จากที่ผ่านมาก็ยังกังวลว่าจะไม่มีงานออกมา เนื่องด้วยเรามีสัดส่วนงานภาครัฐถึง 90% ขณะเดียวกันเราก็เข้าไปรับงานภาคเอกชนบ้าง แต่ด้วยภาคเอกชนมีมูลค่างานที่น้อยอยู่ จึงต้องอาศัยงานภาครัฐเป็นหลัก" นายศิริพงษ์ กล่าว
ส่วนงานด้านต่างประเทศบริษัทฯยังคงอยู่ระหว่างรอเข้าไปประมูลงานในสปป.ลาว ซึ่งเป็นงานทำระบบซอฟแวร์สำหรับจัดการที่ดิน ทะเบียนราษฎร์ ซึ่งยังไม่สามารถบอกได้ว่าจะเข้าไปรับงานดังกล่าวได้ในช่วงใด เนื่องจากขึ้นอยู่กับสปป.ลาวว่าจะเปิดประมูลได้เมื่อไหร่