สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (ThaiBMA) สรุปภาวะตลาดตราสารหนี้ไทยวันนี้วันนี้มีมูลค่าการซื้อขายรวม 50,758 ล้านบาท โดยประเภทของตราสารที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงที่สุด คือ พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย โดยมีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 34,277 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 67.5% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมดที่เกิดขึ้นในวันนี้ ลำดับถัดมาคือ พันธบัตรรัฐบาล มีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 10,571 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 20.8% ทางด้าน หุ้นกู้เอกชน มีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 3,843 ล้านบาท หรือคิดเป็น 7.6% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมด
สำหรับ พันธบัตรรัฐบาล รุ่นที่นิยมซื้อขายสูงสุดในวันนี้คือ พันธบัตรรุ่น LB176A, LB236A และ LB15DA (รุ่นอายุ 3.0 ปี, 9.0 ปี และ 1.5 ปี ตามลำดับ)โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 6,521 ล้านบาท หรือคิดเป็น 62% ของมูลค่าการซื้อขายพันธบัตรรัฐบาลทั้งหมด ทางด้าน หุ้นกู้เอกชน รุ่นที่นิยมซื้อขายสูงสุด 3 อันดับแรกในวันนี้ คือ
1. หุ้นกู้ของบริษัท ไออาร์พีซี จำกัด(มหาชน)(IRPC147A) มูลค่า 675.6 ล้านบาท
2. หุ้นกู้บริษัท ไทยออยล์ จำกัด(มหาชน)(TOP273A) มูลค่า 413.1 ล้านบาท
3. หุ้นกู้ของบริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ จำกัด (มหาชน)(BJC157A) มูลค่า 377.9 ล้านบาท
โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 1,466.6 ล้านบาท หรือคิดเป็น 38.2% ของมูลค่าการซื้อขายหุ้นกู้เอกชนทั้งหมดในวันนี้
ทางด้านประเภทของนักลงทุน ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงที่สุดเป็น 2 อันดับแรกในวันนี้ คือ
1. กลุ่มบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) มียอดซื้อสุทธิ เท่ากับ 4,954 ล้านบาท
2. กลุ่มบริษัทจดทะเบียนในประเทศ มียอดขายสุทธิ เท่ากับ -101 ล้านบาท
ในขณะที่นักลงทุนต่างชาติ มียอดซื้อสุทธิ เท่ากับ 1,845 ล้านบาท
ผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลอายุ 3 เดือน ปิดที่ 2.04% ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเมื่อวาน 0.01% และผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลอายุ 5 ปี ปิดที่ 3.11% ไม่มีการเปลี่ยนแปลงจากเมื่อวาน
Yield Curve แกว่งตัวในกรอบแคบๆ เปลี่ยนแปลงประมาณ 1 bp. ปริมาณการซื้อขายค่อนข้างเบาบางเนื่องจากยังขาดปัจจัยใหม่ๆ นักลงทุนยังคงจับตาผลการประชุมของธนาคารกลางยุโรป (ECB) และตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรของสหรัฐที่จะประกาศออกมาพรุ่งนี้ สำหรับนักลงทุนต่างชาติมียอดซื้อสุทธิ (NET BUY) เท่ากับ 1,845 ล้านบาท (โดยเฉพาะตราสารหนี้รุ่นอายุ 5-10 ปี)