อย่างไรก็ตาม ในปีนี้ บริษัทฯยังคงเป้าหมายรายได้และพอร์ตสินเชื่อปีนี้จะเติบโตจากปีก่อนได้ประมาณ 30% โดยมองว่าครึ่งปีหลังยังมีแนวโน้มที่เติบโตได้ค่อนข้างโดยเฉพาะในช่วงไตรมาส 4 ที่คาดว่าจะมีการเติบโตได้มากเนื่องจาก ในช่วงไตรมาส 4 และ ไตรมาส 1 จะเป็นช่วงไฮซีซั่นของบริษัทฯอยู่แล้ว นอกจากนี้บริษัทฯยังคงเป้าหมายที่จะขยายสาขาให้เป็น 700 สาขาในปีนี้ โดย ณ สิ้นไตรมาส 1/57 ที่ผ่านมามีสาขาทั้งหมดแล้ว 650 สาขา ที่เป็นตัวช่วยให้สามารถเพิ่มลูกค้ารายใหม่ๆได้เพิ่มขึ้น
"แนวโน้มรายได้ในไตรมาส 2 จะต่ำกว่าไตรมาส 1 เล็กน้อย แต่ทั้งปีเราเชื่อว่าจะยังเติบโตได้ตามเป้าหมาย เพราะโดยปกติแล้ว ไตรมาส 1 และ 4 จะเป็นช่วง ไฮซีซั่นของบริษัทฯอยู่แล้ว นอกจากนี้การเปิดสาขาเพิ่มขึ้นยังช่วยให้เราเพิ่มฐานลูกค้าใหม่ๆได้อีกด้วย"นางสาวธิดา กล่าว
ในส่วนของหนี้สงสัยจะสูญ(NPL) อยู่ที่ 4.46% โดยในช่วงที่ผ่านมาปรับตัวขึ้นเล็กน้อย เนื่องจากลูกค้ามีการชะลอการชำระเงินออกไปบ้าง แต่ไม่ได้เป็นผลกระทบมาก เนื่องจากบริษัทฯยังสามารถรับ NPL ได้ถึงระดับ 6-7%
นางสาวธิดา กล่าวอีกว่า บริษัทฯได้ขออนุมัตวงเงินไว้ราว 2 พันล้านบาท แต่ยังไม่ได้เจาะจงรูปแบบ หรือเวลาในการใช้ ซึ่งมองไว้หลายแนวทาง อาทิ ตั๋วสัญญาใช้เงิน (B/E) และ การออกหุ้นกู้ คงต้องรอดูสถานการณ์ความเหมาะสม
"เราขอวงเงินไว้ แต่เราก็ยังไม่ได้มีกำหนดที่จะออก ซึ่งยังต้องดูเวลา และความเหมาะสมก่อนของดอกเบี้ย ซึ่งเราก็จะขอมาเพื่อคืนหนี้ซึ่งหากดอกเบี้ยถูกกว่าเดิมเราก็จะออก แต่ถ้าดอกยังเท่าเดิมหรือสูงกว่าเราก็ไม่จำเป็นที่จะออก" นางสาว ธิดากล่าว