ขณะที่ ปรับเพิ่มงบซื้อที่ดินเป็น 1,300 ล้านบาท จากเดิม 1,000 ล้านบาท ส่วนจะได้ที่หรือเปล่าขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของที่ดิน
งเกษรา กล่าต่อว่า บริษัทปรับเปลี่ยนเซกเม้นท์ราคาบ้านแพงขึ้นจากเดิม 1-2 ล้านบาท โดยจะหันทำคอนโดฯระดับ 2 ล้านบาทขึ้นไปมากขึ้น เพราะต้องการกระจายความเสี่ยงในแง่เซกเม้นท์มากขึ้น เพราะดูจากศูนย์ข้อมูลเครดิตแห่งชาติบูโรพบว่าไตรมาส 1/57 ยอดการปล่อยสินเชื่อบ้าน ราคาต่ำกว่า 1 ล้านบาทดิ่งลง แต่บ้านราคา 1-3 ล้านบาท ลดลงน้อยกว่า
"หลังมีคสช.มีคนออกมาดูโครงการมากขึ้น แนวโน้มเริ่มดูดีขึ้น แต่ขอดูสถานการณ์อีกสักพักกว่าจะเห็นสัญญาณชัด แต่ 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมาแนวโน้มทุกอย่างดูดีขึ้น เราในฐานะเรียลเซกเตอร์ ทำธุรกิจคอมมูนิตี้มอลล์ก็เห็นว่ามีคนเข้ามามากขึ้น เท่าที่ดู 4-5 เดือนแรกแย่สุดแล้ว อย่างต้นพ.ค.ไม่มี mood เลย แต่แนวโน้มมิ.ย.ผู้ประกอบการกล้าขึ้น เราก็เริ่มทำมากขึ้นกว่าต้นพ.ค.ที่ระงับสื่อหลายอย่าง ตอนนี้ก็ทำการตลาดตามเดิม รอสัญญาณเปิดโครงการใหม่เพราะมีหลายโครงการที่เลื่อนมาจากต้นปี ก็มาเปิดในไตรมาส 3 นี้ โดยเฉพาะคอนโด 2 โครงการเปิดแน่ อีก 2 โครงการรอดูยอดขาย 2 ที่เปิดไปแล้วจับตายอดสต็อกที่เหลือ ส่วนแนวราบต้องเปิดแน่เพราะเสี่ยงไม่มาก เพราะกว่าจะขายได้บ้านต้องเสร็จก่อน คอนโดฯเป็นธุรกิจเดียวที่ต้องการ mood อีกอย่างที่ต้องระวัง คือเซกเม้นท์ที่เปิด" นางเกษรา กล่าว
อย่างไรก็ตาม บริษัทต้องติดตามใกล้ชิดเรื่อง Feedback ธนาคาร โดยช่วงที่ผ่านมามีการยกเลิกสินเชื่อราว 10%สูงกว่าปกติที่ 5% ซึ่งธุรกิจอสังหาฯ ขึ้นอยู่กับความมั่นใจเศรษฐกิจ
ขณะที่ยังคงเป้าหมายรายได้ปีนี้อยู่ที่ 2,500 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 25% และยอดขายอยู่ที่ 2,800 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน