MK คาดกำไรสุทธิปีนี้สูงกว่าปีก่อน รายได้ตามเป้า, เพิ่มงบซื้อที่ดินปีนี้

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday June 10, 2014 15:30 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

น.ส.ชุติมา ตั้งมติธรรม ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการสายบัญชี-การเงิน บมจ.มั่นคงเคหะการ (MK) กล่าวถึงแนวโน้มรายได้ในช่วงไตรมาส 2/57 จะมากกว่าไตรมาส 1/57 เนื่องจากในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมามียอดโอนเกือบเท่ากับช่วงไตรมาส 1 ซึ่งหากรวมเดือน 3 ที่จะมียอดโอนเข้ามาค่อนข้างมากจึงมองว่าไตรมาส 2/57 จะมีรายได้มากกว่าไตรมาส 1/57

ดังนี้น บริษัทฯยังคงเป้าหมายรายได้และยอดขายปีนี้ไว้ที่ 2.8 พันล้านบาท โดย ณ สิ้นเดือน พ.ค.57 มียอดขายรอรับรู้รายได้ (Backlog) ราว 1,160 ล้านบาท และจะสามารถรับรู้รายได้ในปีนี้ 1,100 ล้านบาท ขณะที่ยอดขาย 5 เดือนที่ผ่านมา เติบโตขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนถึง 20%

ส่วนกำไรสุทธิปีนี้ คาดว่าจะสูงกว่าปีก่อนที่ทำได้ 428 ล้านบาท ถึงแม้ว่ารายได้จะใกล้เคียงกับปีก่อน เนื่องจากปีนี้บริษัทฯได้มุ่งเน้นการทำโครงการแนวราบเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งมีมาร์จิ้นสูงกว่าโครงการแนวสูง ส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้นในไตรมาส 1/57 สูงขึ้นเป็น 38.47% จากปีก่อนที่ทำได้ 33.15% ซึ่งปีนี้บริษัทฯจะพยายามรักษาให้ใกล้เคียงกับไตรมาส 1/57

นอกจากนี้ บริษทฯยังคงเป้าการเปิดโครงการใหม่ปีนี้ 4 โครงการ มูลค่าราว 3.3 พันล้านบาท ได้แก่ โครงการลีออง (Leon) สุขุมวิท 62 ทาวน์โฮม 3 ชั้น มูลค่าโครงการ 430 ล้านบาท โครงการเบลล์พาร์ค ชวนชื่นซิตี้ รามอินทรา มูลค่าโครงการ 445 ล้านบาท โครงการชวนชื่นโมดัส วิภาวดี 1,715 ลานบาท และโครงการใหม่ บนทำเลเอกชัย 710 ล้านบาท

พร้อมกันนี้ บริษัทฯยังมีอีก 15 โครงการ บนทำเลศักยภาพครอบคลุมทุกโซนในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลที่อยู่ระหว่างการขาย จำนวนอีก 1 พันยูนิต ที่อยู่ระหว่างการขายมูลค่ารวมอีก 3.9 พันล้านบาท

ทั้งนี้ บริษัทฯได้ปรับเพิ่มงบซื้อที่ดินเป็นมากกว่า 1 พันล้านบาท จากเดิมที่ตั้งงบซื้อที่ดินไว้ราว 1 พันล้านบาท โดยในช่วงที่ผ่านมาซื้อไปแล้วกว่า 700 กว่าล้านบาท โดยที่ดินที่ซื้อนั้นเพื่อรองรับการเปิดโครงการในปลายปี 57 และปี 58

"ปีนี้ยังคงเป้าหมายและรายได้ไว้ที่ 2.8 พันล้านบาท โดยปัจจุบันมียอดที่รอรับรู้รายได้อีกมาก และโครงการที่อยู่ระหว่างขาย รวมถึงโครงการที่จะเปิดใหม่ที่จะช่วยให้รายได้และยอดขายเติบโตไปตามเป้า สำหรับสถานการณ์ทางการเมืองที่เริ่มปรับตัวดีขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม ยังต้องมีความระมัดระวังโดยเฉพาะในตลาดคอนโดมิเนียมที่ค่อนข้างอิ่มตัว บริษัทฯจึงเน้นพัฒนาโครงการแนวราบเป็นหลัก ขณะที่การซื้อที่ดินปีนี้เราเร่งซื้อมากขึ้นเพราะเจ้าของที่ดินตัดสินใจขายที่ดินง่ายขึ้น"น.ส.ชุติมา กล่าว

ขณะที่ยอดปฏิเสธสินเชื่อตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมาปรับลดลงมาอยู่ที่ 9% จากปีก่อนที่ 11 % เนื่องจากทางบริษัทฯได้มีมาตรการตรวจสอบลูกค้าก่อน ช่วยให้ยอดการปฏิเสธสินเชื่อปรับตัวลดลงจากปีก่อน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ