(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้แกว่งแคบ ขาดปัจจัยใหม่-เงินนอกแผ่วต่างชาติเริ่มขาย

ขณะนี้นักลงทุนในตลาดต่างประเทศต่างชะลอการลงทุนเพื่อรอดูตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐช่วงปลายสัปดาห์นี้ คือตัวเลขความเชื่อมั่นผู้บริโภค และในช่วงสัปดาห์หน้าจะมีการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)วันที่ 17-18 มิ.ย.นี้

"ตลาดไม่มีปัจจัย อย่างวันนี้ทางฝั่งยุโรปและสหรัฐไม่มีการเปิดเผยตัวเลขอะไรออกมา ปัจจัยในประเทศดูการทำงานของ คสช.ล่าสุดมีการยกเลิกเคอร์ฟิวเพิ่มเติมอีก 20 จังหวัด ตรงนี้คงไม่ได้มีผลอะไรมากเพราะทยอยยกเลิกมาเรื่อยๆ ต่อเนื่องแล้ว"นายอภิชาติ กล่าว

ดังนั้น มองวันนี้เมื่อไม่มีปัจจัยชี้นำใหม่ๆ ดัชนีก็อาจแกว่งแคบและอ่อนลงได้จากแรงขายทำกำไร และสัปดาห์นี้จะมีกองทุนทริกเกอร์ฟันด์ที่ปิดกองขนาดราว 600 ล้านบาท และที่ปรับไปเป็นกองทุนเปิดราว 1.8 พันล้านบาท จะเป็นตัวที่ทำให้การปรับตัวของดัชนีขึ้นได้จำกัด พร้อมให้แนวรับ 1,465 และ 1,460 จุด แนวต้าน 1,475 จุด

ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :

• ตลาดหุ้นนิวยอร์ควานนี้(10 มิ.ย.)ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 16,945.92 จุด เพิ่มขึ้น 2.82 จุด หรือ (+0.02%), ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 1,950.79 จุด ลดลง 0.48 จุด หรือ (-0.02%) ,ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 4,338.00 จุด เพิ่มขึ้น 1.76 จุด (+0.04%)
• ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้านี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 5.33 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลง 34.60 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน ลดลง 3.87 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ลดลง 2.29 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ลดลง 2.44 จุด และดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 2.86 จุด
• ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด(10 มิ.ย.) ที่ 1,469.19 จุด เพิ่มขึ้น 11.89 จุด(+0.82%)
• นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 814.02 ล้านบาท เมื่อวันที่ 10 มิ.ย.57
• ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุดที่ 104.35 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 6 เซนต์
• ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด(10 มิ.ย.)ที่ 5.55 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
• เงินบาทเปิด 32.46/48 กลับมาแข็งค่าจากวานนี้ ตลาดรอปัจจัยใหม่
• แฟนฟุตบอลโลกเฮ คสช.คืนความสุขให้คนไทย ขอความร่วมมือให้ "อาร์เอส"เจ้าของลิขสิทธิ์ถ่ายทอดฟุตบอลโลก 2014 ที่บราซิล ปล่อยสัญญาณถ่ายทอดสดทุกนัดทางช่อง 5 และ 7 ส่วนศาลปกครองสูงสุดนัดชี้ชะตาคนไทยดูบอลโลกฟรีหรือไม่ 11 มิ.ย.นี้ ด้านอาร์เอสฯ"จอดำ"หากแพ้คดี
• ผู้บริหารไออาร์พีซี ที่ถูกไฟไหม้ ยันไม่กระทบสิ่งแวดล้อม พร้อมส่งหน่วยแพทย์พบประชาชน ส่วนความเสียหายประเมินเลวร้ายสุดกระทบรายได้เดือนละ 400 ล้านบาท ด้านกรมโรงงานสั่งปิดหน่วยแครกเกอร์ 90 วัน คาดสรุปสาเหตุ 2-3 วัน ส่วนชาวชุมชนหวั่นวิตก ฝนกรด ขณะกลิ่นแก๊สปริศนายังหาต้นตอไม่พบเร่งตรวจสอบ
• คสช.เดินหน้าทลายขุมทรัพย์บอร์ดรัฐวิสาหกิจ สั่งลดสิทธิประโยชน์ เริ่มนำร่อง "การบินไทย" เลิกแจกตั๋วระดับเฟิสต์คลาสตลอดชีวิต หวังเพิ่มประ สิทธิภาพการทำงาน พร้อมเร่งหาช่องทางดำเนินการกับหน่วยงานอื่นต่อ ด้าน คมนาคมยื่น คสช.ฟันธงปรับค่าโดยสารรถไฟฟ้าใต้ดิน เพิ่มช่วง 1-2 บาท ตามสัญญาสัมปทาน "คสช." เห็นชอบ "กิตติพงษ์" นั่งที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี อ้างเจ้าตัวสมัครใจ ยิ่งลักษณ์ส่งทนายยื่น ป.ป.ช. ขอไต่สวน 3 ประเด็นจำนำข้าว พร้อมไต่สวนพยานเพิ่มอีก 8 ปาก อ้างเฉยไม่ยุติโครงการฉาว หวั่นทำผิดกฎหมาย ด้าน ป.ป.ช.ยันให้ความเป็นธรรม "ปู" ดูเหตุผลขอเพิ่มพยานจำนำข้าว "เด็กพท." หวังสลัดภาพ "แม้ว" ครอบเพื่อไทย เสนอโมเดลเลือก "นายกฯ" โดยตรงพร้อมปลดแอกระบบนายทุน พิลึก พท.สั่งปิดพรรคชั่วคราวเริ่มดีเดย์ 16 มิ.ย.
• หอการค้าต่างชาติมั่นใจพื้นฐานเศรษฐกิจไทย หวังนโยบายเศรษฐกิจชัดเจนใน 2-3 เดือน คาดจีดีพีในปีนี้โต 3% หลังภาครัฐเดินหน้าลงทุน ด้านหอการค้าไทยระบุรัฐประหารไม่กระทบการค้า เล็งเดินหน้าโรดโชว์สินค้าไทยในต่างแดน ขณะ "7 องค์กรภาคเอกชน" เสนอ 7 มาตรการปฏิรูปเศรษฐกิจ
• "บีโอไอ"เผยยอดคำขอรับส่งเสริมในช่วง 5 เดือนแรกวงเงินลงทุน 3.08 แสนล้านบาท ลดลง 42% ชี้ความเชื่อมั่นนักลงทุนมีแนวโน้ม สดใส หลังได้บอร์ดบีโอไอชุดใหม่ คาดประชุมนัดแรก 14 มิ.ย.อนุมัติหลายโครงการ ขณะที่ คำขอรับการส่งเสริมลงทุนโดยตรงต่างชาติ นักลงทุนสหภาพยุโรป สหรัฐยังมั่นใจไทยยื่นขอส่งเสริมลงทุนเพิ่ม 3-6 เท่าในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้

*หุ้นเด่นวันนี้

• TRUE(ธนชาต)ปรับเพิ่มเป็น"ซื้อ"เป้า 10 บาท มุมมองเชิงบวกต่อแผนเพิ่มทุน 65 พันลบ.คาดทำให้บริษัทสามารถแก้ปัญหาการเงินทั้งหมด พร้อมรองรับแนวโน้มการเติบโตของการใช้ data ในไทย เห็นว่าการร่วมมือกับ China Mobile หนึ่งในผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือรายใหญ่ที่สุดของโลกจะเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันให้แก่ TRUE ด้านจัดซื้อจัดจ้าง การทำงานร่วมกัน การให้บริการโทรข้ามแดนอัตโนมัติ และการแชร์นวัตกรรมใหม่ๆ คาด TRUE จะพลิกกลับมาทำกำไรอย่างแข็งแกร่ง และคาดการเติบโตของกำไรต่อหุ้นเฉลี่ย 3 ปีมากถึง 119% คาดจะใช้เคล็ดลับการบัญชีเพื่อปูทางการจ่ายปันผลเพิ่มขึ้น
• BBL(เมย์แบงก์กิมเอ็ง)"ซื้อ"เป้า 240 บาท ราคาหุ้นยัง Laggard โดย YTD หุ้นปรับตัวขึ้นเพียง +9.5% เทียบกับ SET BANK +23.4% และ SET INDEX +13.2% และได้อานิสงส์ Fund Flows ไหลเข้า และจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่จะส่งผลบวกต่อการขยายตัวของสินเชื่อตั้งแต่ 2H57 เป็นต้นไป คาด 2Q57 จะเติบโต qoq เป็น 9,500–10,000 ล้านบาท และงบดุลแข็งแกร่ง จาก Coverage สูงที่สุดในกลุ่มธนาคารถึง 211% ณ สิ้นสุด 1Q57 มี Valuation ค่อนข้างถูก ซื้อขายที่ PBV 57 เพียง 1.15 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มธนาคารและหุ้นแบงค์ใหญ่
• HEMRAJ(ธนชาต)"ซื้อ"เป้า 4 บาท แต่งตั้งบอร์ด BOI ช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาถือเป็นปัจจัยบวกต่อยอดขายที่ดินในช่วง 6 เดือนข้างหน้า หลังจากโครงการลงทุนใหม่รอการอนุมัติจาก BOI ตั้งแต่ปลายปีก่อน ขณะที่ธุรกิจไฟฟ้า+น้ำคิดเป็น 55% ของกำไรทำให้กำไรมีเสถียรภาพมากขึ้น ปัจจุบันซื้อขายที่ PE 10.9x และให้อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล 4.6-4.8%