ในปีนี้เอ็มเอฟซีจะเจาะกลุ่มบริษัทขนาดกลางและขนาดเล็กให้มากขึ้น รวมทั้งรัฐวิสาหกิจ โดยมั่นใจว่าจะได้รับความสนใจจากกลุ่มดังกล่าว จากการมุ่งมั่นสร้างผลตอบแทนให้อยู่ในระดับที่ดีอย่างสม่ำเสมอ นโยบายกองทุนที่หลากหลายสำหรับลูกค้าเลือกได้ตามความต้องการ และการให้บริการด้านงานทะเบียนอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อความสะดวกของสมาชิกกองทุน ซึ่งคาดว่าจะส่งผลให้กองทุนสำรองเลี้ยงชีพของเอ็มเอฟซีสามารถเติบโตเป็นที่หนึ่งตลอดปีนี้
ทั้งนี้ จากสัดส่วนของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนสำรองเลี้ยงชีพของเอ็มเอฟซี 136,914.21 ล้านบาท แบ่งเป็นรัฐวิสาหกิจร้อยละ 70 ภาคเอกชนร้อยละ 21 Master Fund ร้อยละ 6 และ Fix Income Pool Fund อีกร้อยละ 3
จากข้อมูลส่วนแบ่งการตลาดกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ณ วันที่ 30 เม.ย.57 ของสมาคมบริษัทจัดการลงทุน โดย 3 อันดับแรกได้แก่ อันดับ 1 เอ็มเอฟซี มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 136,914.21 ล้านบาท อันดับ 2 บลจ.กสิกรไทย มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 136,425.21 ล้านบาท และอันดับ 3 บลจ. ทิสโก้ มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 102,792 ล้านบาท