"บริษัทได้ยื่นไฟลิ่งต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)ในวันนี้ โดยคาดว่าจะนำหุ้นเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ MAI ได้ทันในปีนี้"นายประเสริฐ กล่าว
ทั้งนี้ บริษัทคาดว่าจะระดมทุนจากการเสนอขายหุ้น IPO มาใช้เพิ่มจำนวนสาขา ชำระหนี้ และเพิ่มเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินงานของบริษัท
บมจ.สยามเวลเนสกรุ๊ป เป็นผู้ประกอบการสปาชั้นนำแบบครบวงจร บริหารงานโดยคนไทย ด้วยวิสัยทัศน์ของบริษัทฯที่จะก้าวขึ้นเป็นผู้ให้บริการสปาระดับสากลของอาเซียน โดยบริหารจัดการสปาภายใต้แบรนด์ ระรินจินดา และ Lets Relax ปัจจุบัน บริษัทเข้าถือหุ้น 100% ใน 3 บริษัท ดังนี้ บริษัท สยามเวลเนสรีสอร์ท ดำเนินธุรกิจบูติครีสอร์ท แบรนด์ระรินจินดา เวลเนส สปา รีสอร์ทและร้านอาหาร, บริษัท สยามเวลเนสแลป จำหน่ายผลิตภัณฑ์สปาธรรมชาติ และ บริษัท สยามเวลเนส เอ็ดยูเคชั่น ดำเนินธุรกิจสถานศึกษานวดแผนไทย เป็นการทำธุรกิจตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ
สำหรับผลประกอบการปี 56 บริษัทมีรายได้รวม 326 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 31% ขณะเดียวกันปี 56 มีกำไรสุทธิ 55 ล้านบาท เติบโตจากปี 55 ที่มีกำไรสุทธิ 49 ล้านบาท โดยมีอัตรากำไรขั้นต้นที่ 41% ในปี 56 สูงกว่าปี 55 ที่อยู่ในระดับ 32%
นายประเสริฐ กล่าวว่า ในปีนี้บริษัทคาดว่าจะมีรายได้เติบโต 20-30% จากปี 56 ที่มีรายได้ราว 326 ล้านบาท โดยครึ่งปีแรกยอดขายใกล้เคียงงวดเดียวกันปีก่อน ถึงแม้ยอดขายในกทม.ชะลอตัว แต่สาขาต่างจังหวัด อย่าง ภูเก็ต เชียงใหม่ และ สมุย เติบโตขึ้นมาชดเชยกันได้ อย่างไรก็ตาม บริษัทคาดหวังว่าครึ่งปีหลังเมื่อสถานการณ์ภาพรวมดีขึ้นลูกค้าจะกลับมา อีกทั้ง บริษัทมีแผนเปิดใหม่ 3 สาขา ที่สยามสแควร์ เพลินจิต และหัวหิน โดยเตรียมงบลงทุน 100 ล้านบาท เพื่อเปิดสาขาใหม่และพัฒนาสาขาเดิม
ปัจจุบัน บริษัทมี 11 สาขา ทั้งใน กทม.และต่างจังหวัด แบ่งเป็นแบรนด์ ระรินจินดา 3 สาขา และ Let's Relax SPA 7 สาขา และ สบายอีก 1 สาขา ซึ่งปกติสาขาใหม่ของแบรนด์ระรินจินดาจะใช้งบลงทุนประมาณ 20-30 ล้านบาท/สาขา แบรนด์ Let's Relax SPA ใช้งบลงทุนราว 15-20 ล้านบาท/สาขา รายได้หลักกว่า 70% มาจากธุรกิจสปา ขณะที่ลูกค้าหลักเป็นต่างชาติ 80% ส่วนใหญ่เป็นชาวฮ่องกง จีน และ ญี่ปุ่น ส่วนอีก 20% เป็นลูกค้าคนไทย
"ธุรกิจเราจับต้องได้เป็นธุรกิจใกล้ตัวคิดว่าน่าสนใจของนักลงทุน และเป็นธุรกิจที่มีอัตรากำไรสุทธิ 17-20% ต่อปีในปีก่อน เป็นตัวเลขที่นักลงทุนคงจะสนใจ ครึ่งหลังถ้ายอดขายที่สยามสแควร์ตามเป้า เราก็หวังโตครึ่งหลังมากกว่าครึ่งแรก เพราะจะเปิดเพิ่มอีก 3 สาขา ยอดขายก็จะเพิ่มขึ้นเยอะ"นายประเสริฐ กล่าว