(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้ปรับตัวลงตามตลาดทั่วโลก หลังตัวเลขศก.สหรัฐฯไม่ดี

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday June 13, 2014 09:33 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายธนเดช รังษีธนานนท์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กรุงศรี กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้มีแนวโน้มปรับตัวลงต่อเนื่อง ตามทิศทางตลาดหุ้นภูมิภาคที่คาดว่าส่วนใหญ่จะเปิดตลาดมาอยู่ในแดนลบและตามตลาดหุ้นทั่วโลก โดยมีปัจจัยจากผลการประกาศตัวเลขยอดค้าปลีก และดัชนีราคาผู้ผลิตของสหรัฐฯออกมาเป็นลบ รวมถึงราคาน้ำมันโลกที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น

ขณะที่ปัจจัยภายในประเทศมองว่าหลังจากที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช.ได้มีนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจต่างๆออกมา ซึ่งบริษัทจดทะเบียนส่วนใหญ่มีการรับข่าวไปแล้ว มองว่าขณะนี้ตลาดหุ้นไทยน่าจะอยู่ในช่วงของการปรับฐาน

พร้อมให้กรอบการเคลื่อนไหวของดัชนีวันนี้ไว้ที่แนวรับ 1,440 จุด และแนวต้าน 1,465 จุด

ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์ควานนี้(12 มิ.ย.)ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 16,734.19 จุด ลดลง 109.69 จุด (-0.65%), ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 1,930.11 จุด ลดลง 13.78 จุด(-0.71%), ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 4,297.63 จุด ลดลง 34.30 จุด(-0.79%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้านี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ ลดลง 142.54 จุด หรือ -0.95% ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ ลดลง 6.10 จุด หรือ -0.30% ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ ลดลง 7.35 จุด หรือ -0.22% ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ ลดลง 11.92 จุด หรือ -0.13%, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ ลดลง 2.80 จุด หรือ -0.15% ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ ลดลง 75.15 จุด หรือ -0.32% ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ ลดลง 2.50 จุด หรือ -0.12% ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียเปิดวันนี้ ไม่เปลี่ยนแปลง
  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด(12 มิ.ย.) ที่ 1,457.02 จุด ลดลง 6.69 จุด(-0.46%)
  • นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 144.13 ล้านบาท เมื่อวันที่ 12 มิ.ย.57
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด(12 มิ.ย.)ที่ 106.53 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 2.13 ดอลลาร์
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด(12 มิ.ย.)ที่ 4.31 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 32.43/45 แข็งค่าจากวานนี้หลังตัวเลขศก.สหรัฐฯกดดอลล์อ่อน
  • "ประสาร" ชี้ความเชื่อมั่นเริ่มฟื้น คาดเศรษฐกิจเริ่มกระเตื้อง แต่ขยายตัวไม่มาก เนื่องจากส่งออกต่ำกว่าคาดการณ์ ประเมินปีหน้าสดใส "หากไม่เกิดอุบัติเหตุ" ด้านเอดีบีห่วงหนี้ครัวเรือนยังกดดันการบริโภค เล็งปรับจีดีพี ในเดือนต.ค. ขณะนักวิเคราะห์แนะใช้ค่าเงินอ่อนกระตุ้น คาดค่าเงินบาทสิ้นปีแตะ 33.50
  • บอร์ด กสทช.อนุมัติเงินกองทุนกทปส. 427 ล้านบาท ชดเชย "อาร์เอส" เสียโอกาสขายกล่อง แลกถ่ายสดบอลโลก 64 นัด ผ่านฟรีทีวี ยันไม่เกี่ยวเงินประมูลทีวีดิจิทัล และไม่กระทบแจกคูปอง ด้าน "อาร์เอส" เตรียมมาตรการเยียวยาลูกค้าซื้อกล่อง ขณะที่ช่อง5 ยิงสด"อนาล็อก-เอชดี"
  • พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)ในฐานะหัวหน้าฝ่ายเศรษฐกิจ ประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมมีมติให้ปรับลดราคาขายปลีกดีเซลลง 14 สตางค์/ลิตรหรือจาก 29.99 บาท/ลิตร เหลือ 29.85 บาท/ลิตร เพื่อต้องการลดภาระค่าครองชีพให้กับประชาชนและภาคขนส่ง
  • ตลาดหลักทรัพย์เผยผลโรดโชว์ "ฮ่องกง-สิงคโปร์" นักลงทุนยังเชื่อมั่นตลาดหุ้นไทย พร้อมมีแผนซื้อเพิ่มหรือถือไว้ต่อ หลัง"แบงก์ชาติ" ให้ข้อมูลภาพการเมืองชัดเจนขึ้น คาดเศรษฐกิจฟื้นตัวครึ่งปีหลัง ระบุบริษัทจดทะเบียนไทยพื้นฐานแข็งแกร่ง ทำกำไรได้ในทุกวิกฤติ ด้านตลาดหลักทรัพย์โชว์แผนดันวอลุ่ม-มาร์เก็ตแคปเพิ่มเท่าตัวในปี 2063 จากปัจจุบันอยู่ที่ 13 ล้านล้านบาท
  • นางลัษมณ อรรถาพิช เศรษฐกรอาวุโสธนาคารพัฒนาเอเชีย (เอดีบี) สำนักงานผู้แทนประจำประเทศไทย กล่าวว่า เอดีบีจะทบทวนประมาณการเศรษฐกิจไทยครั้งต่อไปในเดือน ต.ค. จากเดิมที่คาดว่าจะขยายตัว 2.9% ซึ่งเป็นประมาณการเดิมเมื่อเดือนมี.ค. แต่ปรากฏว่าจีดีพีไตรมาสแรกต่ำกว่าที่คาดไว้พอสมควรจึงต้องมีการทบทวนอย่างไรก็ตาม เอดีบีอยู่ระหว่างติดตามพัฒนาการเศรษฐกิจหลังจากมีรัฐประหารเมื่อวันที่ 22 พ.ค. และผลการกระตุ้นเศรษฐกิจของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เพื่อเป็นข้อมูลปรับจีดีพีต่อไป

*หุ้นเด่นวันนี้

  • หุ้นที่เกี่ยวข้องกับบอลโลกเริ่มขยับ แต่ระวังตลาดพัก(ฟินันเซีย ไซรัส)สถิติการจัดบอลโลก 5 ครั้งล่าสุดในรอบ 20 ปีที่ผ่านมา มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันในช่วงแข่งบอลโลกลดลงเฉลี่ย 4% จากในช่วง 1 เดือนก่อนหน้า ส่วน SET ปรับลงเฉลี่ย 2.3% ทั้งที่ปีอื่นๆ ช่วงเวลานี้ (มักจัดกลางปี) SET แกว่งออกไปในโทนบวกเล็กน้อย มีกลุ่มที่บวกสวนตลาดได้เพียง 2 กลุ่มคือกลุ่มบันเทิง +1.4% กลุ่มค้าปลีก 1.8% สำหรับฟุตบอลโลกปีนี้เริ่มแข่งตั้งแต่ 12 มิ.ย.-13 ก.ค. คาดว่าหุ้นที่จะได้ประโยชน์ซึ่งอาจเป็นประเด็น"เก็งกำไร"ระยะสั้นได้แก่ CPALL, MINT, CENTEL, SINGER
  • TKT(ฟินันเซีย ไซรัส)"ซื้อ"เป้าขึ้นเป้น 3 บาท จากการปรับ PBV ขึ้นจาก 1 เท่าเป็น 1.3 เท่า เพราะกำไรที่จะเริ่มฟื้นตัวเข้าสู่ภาวะปกติตั้งแต่ 3Q14 ทั้งจากอุตสาหกรรมที่เริ่มฟื้นตัว และ TKT เองจะมีรายได้จากการขายแม่พิมพ์มากขึ้นในงวด 2H14 ซึ่งจะทำให้กำไรครึ่งปีหลังโตสูงกว่ากลุ่ม (การขายแม่พิมพ์มีอัตรากำไรขั้นต้นที่สูงราว 20-25% ส่วนชิ้นส่วนพลาสติกที่มีกำไรขั้นต้น 14%) โดยปรับกำไรสุทธิปี 2014 ขึ้น 25% เป็น 40 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3% Y-Y พลิกจากปีก่อนที่หดตัว 52% Y-Y อย่างไรก็ตาม กำไรสุทธิ 2Q14 จะยังแย่ลง Q-Q และ Y-Y ตามฤดูกาล
  • PTTEP(เคเคเทรด)"ซื้อ"เป้า 198 บาท ราคาน้ำมันดิบ 2Q57 (Qtd) อยู่ที่ 105.4 เหรียญต่อบาร์เรล ปรับเพิ่ม 5% YoY อีกทั้งเรามองว่าราคาน้ำมันในช่วง 1-2 เดือนข้างหน้ายังเป็นทิศทางขาขึ้นจากความต้องการใช้น้ำมันในภูมิภาคและสหรัฐฯ เป็นปัจจัยบวกต่อ PTTEP เนื่องจากรายได้จากการขายน้ำมันมีสัดส่วนมากถึง 53% ทำให้ PTTEP เป็นบริษัทที่ได้ประโยชน์โดยตรงจากการปรับเพิ่มของราคาน้ำมันดิบ
  • CK (เคเคเทรด)"ซื้อเก็งกำไร"เป้า 22.44 บาท คาดได้รับปัจจัยหนุนจากงานในอนาคตระยะยาว ตามแผนการจ่ายงบประมาณจากภาครัฐ นอกจากนี้ภายใน 2H57 ยังมีโอกาสรับงานเพิ่มจากภาคเอกชนจากโครงการโรงไฟฟ้า และโครงการเขื่อนน้ำบาก มูลค่ากว่า 2 หมื่นล้านบาทช่วยสนับสนุนงานในมือให้เพิ่มขึ้นจากปัจจุบัน ที่ 1แสนล้านบาท ขณะทีรายได้มีความต่อเนื่องจากโครงการไซยะบุรี รวมถึงผลกำไรระยะยาวจากการลงทุนในธุรกิจสาธารณูปโภคพื้นฐาน (TTW,BECL,BMCL,CKP)

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ