บล.เคเคเทรด ระบุในบทวิเคราะห์ฯแนะ"ซื้อ"หุ้น บมจ.สามารถ ไอ-โมบาย(SIM)สังเกตว่าในวันที่ 11-12 มิ.ย. ปริมาณและมูลค่าการซื้อขายของ SIM ไม่ปกติ โดยมีปริมาณการซื้อขายรวม 570 ล้านหุ้น และมูลค่าการซื้อขายรวม 1,720 ล้านบาท นอกจากนี้พบว่ายังมีการซื้อขายของ NVDR มากกว่าปกติเฉลี่ยต่อวันราว 20 ล้านหุ้น มีมูลค่าเฉลี่ย 50-60 ล้านบาท
อย่างไรก็ดี เชื่อว่าราคาหุ้น SIM ที่ปรับตัวลงแรง 21% ในช่วง 2 วันที่ผ่านมา ได้สะท้อนความกังวลเรื่องการลดสัดส่วนถือหุ้นของ AXIATA GROUP ผ่านการเสนอขายแบบเฉพาะเจาะจง ซึ่งจะมีราคาขายต่ำกว่าราคาตลาดค่อนข้างมาก จึงมองว่าในระยะสั้นราคาหุ้น SIM ยังเคลื่อนไหวผันผวนจนกว่าจะมีความชัดเจนเรื่องจำนวนหุ้นและราคาขายหุ้น
อย่างไรก็ดีราคาหุ้นที่ปรับลงแรงขณะที่ปัจจัยพื้นฐานไม่เปลี่ยน ทำให้ SIM ซื้อขาย PE ปี 2557 ถูกลงเหลือ 12.4 เท่า มี PEG 0.6 เท่า และผลตอบแทนเงินปันผล 4% มองเป็นโอกาสทยอยสะสม
หากพิจารณาจากโครงสร้างผู้ถือหุ้นของ SIM แบ่งเป็น 2 กลุ่มใหญ่คือ กลุ่ม SAMART ถือหุ้นรวมกัน 59.74% (จำนวนหุ้น 2,625 ล้านหุ้น) และ AXIATA GROUP (เทเลคอมมาเลเซีย) ถือหุ้น 23.96% (จำนวนหุ้น 1,053 ล้านหุ้น) ประกอบกับมีกระแสข่าว AXIATA GROUP จะลดสัดส่วนการถือหุ้น SIM ผ่านการเสนอขายแบบเฉพาะเจาะจง ทำให้มองว่าข่าวดังกล่าวมีความเป็นไปได้และอาจมีการขายหุ้นบางส่วนในตลาด
AXIATA GROUP ร่วมลงทุนกับกลุ่ม SAMART เป็นระยะเวลากว่า 10 ปีตั้งแต่ปี 2540 ช่วงปลายปี 2553 AXIATA GROUP ขายหุ้น SAMART ที่ถือ 18.6% ให้กลุ่มวิไลลักษณ์ แต่ยังถือหุ้น SIM (มีโคต้ากรรมการบอร์ด 2 คน) ปัจจุบันมีความร่วมมือทางธุรกิจระหว่างกันค่อนข้างน้อย ขณะที่ SIM และกลุ่ม SAMART มีความร่วมมือทางธุรกิจระหว่างกันมากกว่า มองว่าหากมีการเปลี่ยนแปลงการถือหุ้น AXIATA GROUP ใน SIM จะไม่กระทบปัจจัยพื้นฐาน SIM เนื่องจากกลุ่ม SAMART ยังเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ จึงไม่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงนโยบายธุรกิจของ SIM