นายชัชพล ประสพโชค กรรมการผู้จัดการ บมจ. ยูเอซี โกลบอล (UAC) ตั้งเป้ารายได้ในอีก 5 ปี บริษัทฯจะมีรายได้เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 5 พันล้านบาท จากปี 58 ที่คาดว่าจะมีรายได้ 2 พันล้านบาท หลังจากสามารถสร้างโรงผลิตก๊าซชีวภาพอัดความดันสูง (CBG) ทั้งหมด 21 แห่ง ได้ในปี 58 โดยปัจจุบันสร้างเสร็จไปแล้ว 6 แห่ง และมีกำลังการผลิตไฟฟ้าจากโซลาร์รูฟใน 3 โครงการ กำลังการผลิตอยู่ที่ 1.3 เมกะวัตต์ จะส่งผลให้มีกำลังการผลิตรวมอยู่ที่กว่า 30 เมกะวัตต์
"ปี 58 บริษัทจะมีสัดส่วนรายได้จากพลังงานทางเลือกเพิ่มเป็น 50% จากปัจจุบันอยู่ที่ 20% โดยบริษัทฯมีแผนที่จะเข้าร่วมในโครงการโซลาร์รูฟชุมชนที่ภาครัฐกำหนดให้มีการสนับสนุนราว 800 เมกะวัตต์ ในขณะเดียวกันบริษัทฯอยู่ระหว่าเจรจาดีล M&A 2-3 ราย โดยคาดว่าจะสรุป ธุรกิจพลังงานทางเลือก 1 ดีล มูลค่า 500-1,000 ล้านบาท ในไตรมาส 3/57"
สำหรับปีนี้บริษัทฯยังมั่นใจว่ารายได้จะเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ 1.2 พันล้านบาท จากปีก่อนที่มีรายได้ราว 1 พันล้านบาท ซึ่งในส่วนของอัตรากำไรสุทธิเองบริษัทฯมีเป้าหมายที่จะพยายามรักษาให้อยู่ในระดับ 13% ใกล้เคียงกับปีก่อน ถึงแม้ว่าไตรมาสแรกอัตรากำไรสุทธิของบริษัทฯจะอยู่ที่เพียง 5.2%
"แผนระยะสั้นของเราคือจะต้องทำรายได้ของปีนี้ให้เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ และปีหน้าเราจะมีรายได้เพิ่มขึ้นทั้งจากธุรกิจซื้อมาขายไปและกำลังผลิตไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น และในระยะยาวนั้นเราก็มีแผนที่ขยายกำลังการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทางเลือกให้มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะเป็นตัวที่ช่วยให้รายได้ของเราขึ้นไปถึง 5 พันล้านได้ใน 5 ปี"นายชัชพล กล่าว
นอกจากนี้ บริษัทฯตั้งเป้าที่จะเพิ่มมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (มาร์เก็ตแคป) รวมให้สูงขึ้นเตะ 1 หมื่นล้านบาท จากปัจจุบันอยู่ที่ราว 4-5 พันล้านบาท โดยหลังจากที่มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดปรับตัวขึ้นไปได้ตามเป้าหมายแล้วทางบริษัทฯอาจจะมีการพิจารณาเพื่อนำบริษัทฯเข้าไปจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ SET จากปัจจุบันจดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ mai
"เรามีเป้าหมายที่จะเพิ่มมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดรวมให้ขึ้นไปเตะ 1 หมื่นล้านบาทแล้ว เราก็อาจย้ายบริษัทฯเข้าไปอยู่ใน SET ได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเราก็ต้องรอดูก่อนว่าสถานการณ์ในเวลานั้นจะเป็นอย่างไร"นายชัชพล กล่าว