"ความสำเร็จในการกระจายหุ้นในครั้งนี้นับเป็นอีกหนึ่งกำลังสำคัญ ให้บริษัทมีความพร้อมที่จะเติบโตอย่างต่อเนื่อง และก้าวขึ้นเป็นผู้นำเบอร์หนึ่งของตลาดเครื่องกรองน้ำดื่มภายในครัวเรือน แบบขายตรงชั้นเดียว (Single Level Direct Sale) ของประเทศ ได้อย่างมั่นคง และยังยืน" นายวีรวัฒน์ กล่าว
วัตถุประสงค์การระดมทุนในครั้งนี้ บริษัท เตรียมนำเงินที่ได้จากการเสนอขายไอพีโอ รวมจำนวน 301 ล้านบาท ไปใช้ก่อสร้างโรงงานใหม่แห่งที่ 3 บนพื้นที่ 9 ไร่ ในจังหวัดปทุมธานี จำนวน 60 ล้านบาท, ใช้ลงทุนขยายสาขาสำนักงานขาย และศูนย์บริการ ให้ครอบคลุมพื้นที่ขายและการบริการทั่วประเทศ จากปัจจุบันซึ่งมีสาขาสำนักงานขาย 4 สาขา ได้แก่ ร้อยเอ็ด, นครศรีธรรมราช เชียงใหม่และพิษณุโลก และศูนย์บริการลูกค้า 6 สาขา ได้แก่ นครราชสีมา, ชลบุรี นครสวรรค์, เพชรบุรี, อุบลราชธานี และสงขลา
นอกจากนั้นจะนำไปใช้เพื่อการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่จากปัจจุบันซึ่งมีจำหน่ายเพียง 2 รุ่น คือ เครื่องกรองน้ำ SAFE รุ่น Power Health และรุ่น Super Alkali เพื่อให้เหมาะสมกับคุณภาพน้ำแต่ละพื้นที่มากยิ่งขึ้น อาทิ เครื่องกรองน้ำ UV PLUS, เครื่องกรองน้ำ RO และเครื่องกรองน้ำขนาดเล็กสำหรับคอนโดมิเนียม และที่เหลือจะใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน และใช้ลงทุนสำหรับการเพิ่มช่องทางการขายที่ทันสมัยเพื่อตอบรับกับ Life Style ของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปในอนาคต
นางสาวสุวภา เจริญยิ่ง กรรมการผู้จัดการ บล.ธนชาต ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน (FA) และผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้น TSR กล่าวว่า นักลงทุนให้ความเชื่อมั่นหุ้น TSR มาก ด้วยธุรกิจของบริษัทที่มีแนวโน้นการเติบโตอย่างต่อเนื่องชัดเจน ซึ่งผลิตภัณฑ์เครื่องกรองน้ำดื่มภายในครัวเรือน นับว่ามีความจำเป็นมากสำหรับการบริโภคน้ำดื่มที่สะอาดในชีวิตประจำวัน ธุรกิจมีผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวเนื่องผูกพันกับผู้บริโภค การระดม 301 ล้านบาทในครั้งนี้ จะส่งเสริมศักยภาพในการแข่งขันสามารถรองรับการต่อยอดโอกาสทางธุรกิจให้บริษัทได้เป็นอย่างมาก
ส่วนของผลการดำเนินงานของบริษัทฯ มีการขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง โดยผลการดำเนินงานปี 56 มีรายได้ที่ระดับ 1,012 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิหลังการปรับปรุงรายการพิเศษที่ 76 ล้านบาท ขณะที่งวด 3 เดือนของปี 57 บริษัทฯ ทำรายได้รวมกว่า 253 ล้านบาท กำไรสุทธิ 17 ล้านบาท
"หากประเมินปัจจัยพื้นฐานของหุ้น TSR ถือเป็นหนึ่งในหุ้นน้องใหม่ที่น่าจับตามอง จากการขยายสาขาสำนักงานขายและศูนย์บริการให้ครอบคลุมทั่วประเทศ การเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่ายที่ทันสมัย ตลอดจนการพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อขยายกลุ่มลูกค้าเพิ่มขึ้น ประกอบกับธุรกิจมีความเข้มแข็ง มีโอกาสเติบโตทางธุรกิจสูงจากการขยายตัวของความเจริญทางเศรษฐกิจ, เทรนด์การบริโภคน้ำดื่มสะอาดในกรุงเทพและปริมณฑล และต่างจังหวัดเพิ่มสูงขึ้น และจำนวนประชากรครัวเรือนที่เพิ่มขึ้น รวมถึงโอกาสขยายธุรกิจไปยังกลุ่มประเทศเพื่อบ้านหลังจากเปิดเสรีทางเศรษฐกิจในปี 58"นางสาวสุวภา กล่าว