นายสมพงษ์ กังสวิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร CSS เชื่อว่ารายได้และกำไรของบริษัทจะเติบโตอย่างต่อเนื่องในช่วงปี 57-58 โดยในแง่ของรายได้คาดว่าในปี 58 จะเพิ่มขึ้นเป็น 4,400 ล้านบาท จากปี 57 ที่ตั้งเป้าไว้ 4,000 ล้านบาท หรือเติบโตกว่า 20% จากปี 56
แนวโน้มกำไรของบริษัทจะปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่องตามการเพิ่มขึ้นของการรับรู้รายได้งานด้านโทรคมนาคมที่มีอัตรากำไรสูงกว่างานด้านเทรดดิ้ง โดยในปี 58 รายได้จากงานโทรคมนาคมจะเพิ่มขึ้นเป็น 1,000 ล้านบาท จากปีนี้อยู่ที่ราว 800 ล้านบาท ซึ่งช่วยผลักดันให้อัตรากำไรสุทธิเพิ่มขึ้นตามไปด้วย โดยปี 57 มั่นใจว่ากำไรสุทธิก็จะดีกว่าปี 56 ที่มีกำไรราว 110 ล้านบาท และในปี 58 ก็เชื่อว่าจะดีขึ้นอีก
"งานเทเลคอมเข้ามาเยอะทำให้ทั้งอัตรากำไรขั้นต้นและอัตรากำไรสุทธิดีขึ้น โดยปีก่อนอัตรากำไรขั้นต้นงานเทเลคอมที่ 30% อัตรากำไรสุทธิไม่ต่ำกว่า 15% ส่วนงานเทรดดิ้งอัตรากำไรขั้นต้น 9% อัตรากำไรสุทธิ 1-2% ดังนั้น เฉลี่ยทั้งปีอัตรากำไรสุทธิของบริษัทอยู่ที่ 3.4%"นายสมพงษ์ กล่าว
สำหรับรายได้ในปี 57 นี้ จะมาจากงานเทรดดิ้ง 3,200 ล้านบาท และงานโทรคมนาคม 800 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มีงานโทรคมนาคม 500 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นราว 60% ทำให้สัดส่วนรายได้จากงานโทรคมนาคมเพิ่มขึ้นเป็น 25% และงานเทรดดิ้ง 75% จากปีก่อนงานโทรคทมนาคมอยู่ที่ 20% และงานเทรดดิ้ง 80%
ปัจจุบัน บริษัทมีงานในมือ(backlog)ราว 2,300 ล้านบาท เป็นงานติดตั้งเสา 3G ของ บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น(TRUE) รวมมูลค่า 1,600 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้เป็นรายได้ในปีนี้ 800 ล้านบาท หลังจากเริ่มติดตั้งในไตรมาส 2/57 ส่วนอีก 800 ล้านบาทจะไปรับรู้รายได้ในปี 58 ขณะที่งานเทรดดิ้งมีออร์เดอร์แล้ว 700 ล้านบาทรับรู้เป็นรายได้ภายในปีนี้ทั้งหมด
ทั้งนี้ แนวโน้มไตรมาส 2/57 คาดว่ารายได้จะสูงกว่าไตรมาส 1/57 ที่มีรายได้ 755 ล้านบาท และไตรมาส 3-4/57 ก็จะมากกว่าไตรมาส 2/57 เพราะงานโทรคมนาคมส่วนใหญ่ส่งมอบในครึ่งปีหลัง
"ปีนี้มั่นใจค่อนข้างสูงกำไรจะสูงกว่าปีก่อนที่ 110 ล้านบาท และปี 58 ก็จะสูงกว่าปี 57 เพราะมี backlog แล้ว และ 4G ก็จะประมูล ถ้าปีนี้ดูดีและปี 58 ก็น่าจะดีกว่า ดูจากเสาโทรคมนาคมที่รับมาแล้ว และงานเทรดดิ้ง ถ้าปี 58 มีเมกะโปรเจกต์เทรดดิ้งก็น่าจะดีอีก"นายสมพงษ์ กล่าว
ขณะที่ทิศทางรายได้จากงานด้านเทรดดิ้ง ซึ่งเป็นรายได้หลักของบริษัทปกติจะเติบโตราว 2 เท่าของอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจประเทศ ส่วนใหญ่เป็นงานพวกสายไฟ ซึ่งยังไม่รวมถึงรวมงานโครงการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐาน(เมกะโปรเจ็คต์) เช่น รถไฟรางคู่ และรถไฟฟ้า ซึ่งในแต่ละเส้นทางจะสร้างรายได้ให้กับบริษัทราว 100 ล้านบาท รวมถึงงานขยายสนามบินสุวรรณภูมิเฟส 2 ก็เชื่อว่าจะสร้างรายได้ให้กับบริษัทเพิ่มขึ้นด้วย
นายสมพงษ์ เปิดเผยว่า บริษัทยังมีงานขนาดใหญ่ด้านโทรคมนาคมที่เตรียมเข้าประมูลเพิ่มเติมในเดือน ส.ค.นี้ เป็นงานวางโครงข่ายระบบ 4G ของผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือทั้ง 3 ค่าย ได้แก่ ทรูมูฟ, DTAC และ เอไอเอส ราวค่ายละ 3,000 ต้น เพื่อให้สัญญาณครอบคลุมการให้บริการอย่างทั่วถึง ซึ่งโดยปกติแล้วหากเป็นงานของ TRUE บริษัทก็จะเข้าไปมีส่วนร่วมราว 20% ของมูลค่างาน
"ธุรกิจเทเลคอม 3-4 ปีนี้ยังสดใส งานเทเลคอมจะชุกมาก เราน่าจะได้งานต่อเนื่อง เพราะเอไอเอสก็ประกาศเอาแน่ TRUE หลังได้พันธมิตรเป็นไชน่า โมบายล์ก็เตรียมเงินประมูล 4G บอกเอาแน่ ในปี 58 และปีถัดไปรายได้เทเลคอมคงรับรู้เพิ่มขึ้น"นายสมพงษ์ กล่าว
ส่วนการเจรจารับงานเสาโทรคมนาคมในพม่านั้น ขณะนี้ตอนนี้ติดปัญหาเรื่องค่าเงินจ๊าดของพม่าที่ยังไม่มีเสถียรภาพ แต่หากยอมจ่ายเป็นเงินบาท หรือดอลลาร์สิงคโปร์ หรือดอลลาร์สหรัฐ หรือแม้แต่เงินเยน บริษัทก็พร้อมจะเข้ารับงานทันที โดยการเจรจาดำเนินมาต่อเนื่องนาน 6 เดือนแล้ว เพราะในพม่ามีความต้องการเสาโทรคมนาคมอีกมาก เนื่องจากปัจจุบันมีเสาเพียง 3,000 ต้น แต่มีความต้องการเพิ่มไม่ต่ำกว่า 5 หมื่นต้นภายใน 3-5 ปี