สำหรับการเข้าคำนวณในดัชนี SET100 นั้นสะท้อนให้เห็นว่า BJCHI เป็นหนึ่งในบริษัทจดทะเบียนที่มีมูลค่าตามราคาตลาดรวมหรือ Market Capitalization สูง มีสภาพคล่องในการซื้อขายอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งหมายถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีต่อ BJCHI จึงทำให้ตัดสินใจเข้ามาถือหุ้น โดยเชื่อว่าประเด็นดังกล่าวจะส่งผลให้หุ้นมีสภาพคล่องมากขึ้น สร้างความเชื่อมั่นและน่าสนใจ รวมทั้งดึงดูดให้กลุ่มนักลงทุนสถาบัน นักลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุนและถือหุ้นของบริษัทเพิ่มขึ้น ทั้งนี้บริษัทได้ถูกนำเข้าคำนวณในดัชนี MSCI Global small cap index เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาอีกด้วย
“ถือเป็นเรื่องน่ายินดีอย่างยิ่งของ BJCHI ที่ได้เข้าเป็นหนึ่งในหุ้นน้องใหม่ที่เข้าคำนวณในดัชนี SET 100 และเป็นบทพิสูจน์ถึงผลงานของทีมผู้บริหารและพนักงานของบริษัทในช่วงที่ผ่านมาได้เป็นอย่างดี โดยหลักเกณฑ์ในการคัดเลือกนั้น นอกจากจะพิจารณาจากมูลค่าตามราคาตลาดรวม ที่สูงที่สุดติด 1 ใน 100 หลักทรัพย์แล้ว ยังพิจารณาจากสภาพคล่องในการซื้อขาย ซึ่งการที่หุ้น BJCHI ผ่านการพิจารณาทั้งสองหลักเกณฑ์นั้น ย่อมสะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีต่อปัจจัยพื้นฐานของบริษัท ขณะที่หุ้นใหม่ที่ได้รับการคัดเลือกเข้าคำนวณ SET 100 มีรอบระยะเวลาการคำนวณตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคมถึง 31 ธันวาคม 2557" นายหยัง เจิน ลี กล่าว
สำหรับการคำนวณดัชนี SET100 นั้นจะใช้ข้อมูลการซื้อขายหลักทรัพย์ย้อนหลัง 12 เดือน (1 มิถุนายน 2556 ถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2557) และข้อมูลมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดย้อนหลัง 3 เดือน โดยหลักทรัพย์ที่ผ่านเกณฑ์การคัดเลือก 50 ลำดับแรกจะใช้ในการคำนวณดัชนี SET50 ขณะที่หลักทรัพย์ 100 ลำดับแรกจะใช้ในการคำนวณดัชนี SET100 โดยมีหลักทรัพย์ 5 ลำดับถัดมาเป็นหลักทรัพย์สำรอง 5 หลักทรัพย์สำหรับดัชนีแต่ละชุดด้วย ในส่วนดัชนี SETHD นั้น จะคัดเลือกหลักทรัพย์จากหลักทรัพย์ในดัชนี SET100 ที่มีอัตราจ่ายเงินปันผลสูงและต่อเนื่อง 30 อันดับมาใช้ในการคำนวณดัชนี และหลักทรัพย์สำรอง 5 หลักทรัพย์ โดยตลาดหลักทรัพย์ฯ จะทบทวนหลักทรัพย์เพื่อคำนวณดัชนีทุกๆ 6 เดือนช่วงมิถุนายนและธันวาคม
นายหยัง กล่าวอีกว่า มั่นใจว่ารายได้ในปีนี้จะสามารถเติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้ไม่ต่ำกว่า 15% จากปีก่อน ที่มีรายได้อยู่ที่ 3,928.89 ล้านบาท โดยไตรมาส 1/2557 มีรายได้รวม 900.57 ล้านบาท และเชื่อมั่นว่าแนวโน้มในช่วงที่เหลือของปีผลประกอบการน่าจะเป็นไปตามแผนงานที่วางไว้ เพราะบริษัทมีความเชี่ยวชาญในธุรกิจทางด้านพลังงานและปิโตรเคมี ขณะที่มีประสบการณ์จากงานโครงการใหญ่ๆ อีกจำนวนมาก รวมถึงการส่งมอบงานตรงต่อเวลา และคุณภาพที่ได้มาตรฐานสากล ทำให้ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าเป็นอย่างดี ซึ่งถือว่าเป็นจุดแข็งและมั่นใจว่า BJCHI จะได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าใหม่เช่นกัน
ปัจจุบัน BJCHI ประกอบธุรกิจวิศวกรรมด้านการรับจ้างผลิต และติดตั้งอุปกรณ์ต่างๆ ที่ใช้ในกระบวนการผลิตในโรงงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ตามแบบและขนาดที่ลูกค้าเป็นผู้กำหนด ซึ่งมีลูกค้าหลักอยู่หลากหลายทวีปทั่วโลก เช่น ทวีปอเมริกาใต้ และทวีปออสเตรเลีย ซึ่งปัจจุบันบริษัทมีปริมาณงานในมือ (Backlog) อยู่ประมาณ 4,400 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้ตั้งแต่ไตรมาส 2/2557 เป็นต้นไป นอกจากนี้ยังมีงานที่ยื่นประมูลใหม่ และอยู่ระหว่างรอผลการประมูลงานอีกจำนวนมาก