นายวีระศักดิ์ สุตัณฑวิบูลย์ รองผู้จัดการใหญ่ BBL เปิดเผยว่า ธนาคารได้ออกมาตรการให้ความช่วยเหลือแก่ลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากการชุมนุมทางการเมืองในช่วงระหว่างเดือน ต.ค.56-พ.ค.57 โดยเฉพาะลูกค้าวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) ที่ได้รับผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจซึ่งอยู่ในบริเวณพื้นที่ที่มีการชุมนุม รวมถึงลูกค้าในภาคธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องต่างๆ เช่น ธุรกิจท่องเที่ยว โรงแรม ค้าปลีก และบริการ เป็นต้น โดยส่งผลกระทบให้ลูกค้ากลุ่มนี้มีรายได้ลดลงจากในช่วงสถานการณ์ปกติ จนบางรายอาจประสบปัญหาขาดสภาพคล่องและมีความสามารถในการชำระหนี้ลดลง
สำหรับมาตรการให้ความช่วยเหลือแก่ลูกค้าธนาคาร ประกอบด้วย 1.การอำนวยสินเชื่อใหม่หรือพิจารณาวงเงินสินเชื่อเพิ่มขึ้น เพื่อใช้สำหรับหมุนเวียนในกิจการหรือให้เป็น Term Loan ในอัตราดอกเบี้ยพิเศษที่จะพิจารณาระดับความรุนแรงของผลกระทบและความเหมาะสมเป็นรายกรณี 2.การปรับเงื่อนไขการชำระหนี้ ทั้งปรับลดจำนวนการผ่อนชำระเงินต้นและขยายระยะเวลาการชำระหนี้ออกไปสูงสุดไม่เกิน 12 เดือน หรือกำหนดระยะเวลาการปลอดชำระเงินต้นสูงสุดไม่เกิน 6 เดือน
3.การผ่อนปรนอัตราดอกเบี้ย โดยจะพิจารณาผ่อนปรนอัตราดอกเบี้ยพิเศษเป็นรายกรณีตามระดับความรุนแรงของผลกระทบที่เกิดขึ้น และ 4.การให้คำปรึกษาทางการเงิน แก่ลูกค้าที่ได้รับผลกระทบ โดยผู้บริหาร ผู้จัดการและทีมงานซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ธุรกิจสัมพันธ์ผู้เชี่ยวชาญในการให้บริการและคำแนะนำด้านสินเชื่อ โดยลูกค้าสามารถขอคำปรึกษาและแสดงความจำนงในการขอรับมาตรการความช่วยเหลือได้ตั้งแต่บัดนี้จนถึง 30 ธ.ค.57
นายวีระศักดิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ตลอดระยะเวลาที่เกิดการชุมนุมทางการเมือง ผู้บริหาร ผู้จัดการ และเจ้าหน้าที่สินเชื่อของธนาคารได้อำนวยความสะดวกและดูแลลูกค้าทุกกลุ่มเป็นรายกรณีอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าเอสเอ็มอี ทั้งการสอบถาม การให้คำปรึกษา รวมไปถึงการขออนุมัติให้ความช่วยเหลือเป็นกรณีเร่งด่วนเพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ลูกค้า และป้องกันมิให้ข้อมูลลูกค้าถูกรายงานสถานะหนี้ไปยังบริษัทข้อมูลเครดิตแห่งชาติ ซึ่งจะมีผลกระทบกับสถานะหนี้ของลูกค้าแต่ละรายในทันที