3 โครงการดังกล่าว ได้แก่ โครงการงานก่อสร้างทางรถไฟรางคู่ ช่วงฉะเชิงเทรา-คลองสิบเก้า-แก่งคอย สัญญที่ 1 มูลค่างานประมาณ 1 หมื่นล้านบาท โครงการรถไฟฟ้าสายสีเชียว ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต มูลค่างานประมาณ 3 หมื่นล้านบาท และโครงการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ระยะที่ 2 มูลค่างานประมาณ 6 หมื่นล้านบาท
ทั้ง 3 โครงการอาจจะเซ็นสัญญาไม่ทันภายในปีนี้ แต่ในปีหน้าเชื่อว่าจะมีงานประมูลโครงสร้างพื้นฐานจำนวนมากซึ่งเป็นโอกาสที่ดีของบริษัทที่จะได้งานภาครัฐมากขึ้น
"เราก็ประเมินตัวเองว่า เราน่าจะได้ส่วนแบ่งในงานที่ออกมา 20-25% แต่คิดว่ากว่าจะเซ็นสัญญาคงไม่ทันปีนี้" นายภาคภูมิกล่าวกับ"อินโฟเควสท์"
นายภาคภูมิ กล่าวว่า ในปีนี้ บริษัทได้ตั้งเป้าได้งานใหม่ 2 หมื่นล้านบาท ไม่นับรวมงานโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐ โดยในครึ่งปีหลังคาดว่าจะมีงานใหม่เข้ามาไม่น้อยกว่า 1.5 หมื่นล้านบาทซึ่งส่วนใหญ่เป็นงานภาคเอกชน และมีงานก่อสร้างห้างสรรพสินค้า Blue Port ที่หัวหินของกลุ่มเดอะมอลล์ มูลค่า 1.5 พันล้านบาท ที่รอเซ็นสัญญาเร็วๆนี้ หลังจากช่วงที่ผ่านมาได้งานใหม่มากว่า 3 พันล้านบาท
"ถ้ามีการเซ็นสัญญารถไฟทางคู่ น่าจะเซ็นได้ทันปีนี้ ...เราตั้งเป้างานใหม่ได้ 2 หมื่นล้านบาทไม่รวมเมกะโปรเจ็กค์ ถ้าเราชนะรถไฟทางคู่ งานใหม่ก็ขึ้นมาเป็น 3 หมื่นล้านบาท" นายภาคภูมิ กล่าว
ส่วนผลประกอบการปีนี้ บริษัทยังคงประมาณการรายได้อยู่ที่ 2.3 -2.4 หมื่นล้านบาทจากปีก่อนที่ 2.2 หมื่นล้านบาท โดยในไตรมาส 2/57 รายได้อาจจะต่ำกว่าไตรมาส 1/57 เพราะมีวันหยุดมาก ซึ่งเป็นปกติอยู่แล้ว
"ผมยังเชื่อว่ารายได้ปีนี้ไม่ต่างกับปีที่แล้ว อัตรากำไรสุทธิก็พยายามรักษาไม่ให้น้อยกว่าเดิมที่ปีที่แล้วอยู่ที่ 7% Gross Profit 9%"กรรมการผู้จัดการ STEC กล่าว
ปัจจุบัน บริษัทมีงานในมือ Backlog มูลค่าประมาณ 5 หมื่นล้านบาท