กองทุน KTFF47 เน้นลงทุนในตราสารหนี้ต่างประเทศร้อยละ 80%ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ซึ่งประกอบด้วย เงินฝากประจำ China Construction Bank , เงินฝากประจำ Bank of China , MTN ออกโดย Agricultural Bank of China และ MTN ออกโดย ICBC Asia Ltd. ส่วนที่เหลือลงทุนหุ้นกู้ ตั๋วแลกเงิน สถาบันการเงิน บริษัทเอกชน
นอกจากนี้ ยังอยู่ในระหว่างการเปิดจำหน่ายรอบใหม่ ( Roll Over )ของกองทุนเปิดกรุงไทยสมาร์ทอินเวส 6 เดือน3 ( KTSIV6M3) เสนอขายถึงวันที่ 20 มิถุนายน 2557 อายุ 6 เดือน เน้นลงทุนตรารสารหนี้ภาคเอกชน 57% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ส่วนที่เหลือลงทุนในเงินฝาก บัตรเงินฝาก ของธนาคารออมสิน และธนาคารทิสโก้ ผู้ลงทุนจะได้รับผลตอบแทนประมาณ 2.40% ต่อปี
นางชวินดา กล่าวต่อไปว่า ภาวะตลาดตราสารหนี้ไทยในช่วงครึ่งปีหลังนั้น คาดว่าอัตราผลตอบแทนมีโอกาสปรับตัวสูงขึ้นในลักษณะเส้นอัตราผลตอบแทนที่ชันขึ้น ซึ่งเป็นผลมาจากเศรษฐกิจอเมริกาที่เริ่มฟื้นตัวมั่นคงขึ้น โดยทาง บริษัท คาดว่า US Treasuries รุ่นอายุ 10 ปีจะปรับตัวสูงขึ้นจากระดับ 2.60% ในปัจจุบันไปอยู่ที่ 3% ณ สิ้นปี 2557
นอกจากนี้เศรษฐกิจไทยในครึ่งปีหลังมีแนวโน้มฟื้นตัวซึ่งเป็นผลมาจากการเริ่มลงทุนในโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน โดยปัจจัยดังกล่าวจะเป็นผลบวกกับตลาดหุ้น และส่งผลให้ปริมาณพันธบัตรออกใหม่มีโอกาสปรับตัวสูงขึ้นไปด้วย
สำหรับแนวโน้มเงินทุนต่างชาตินั้น คาดว่านักลงทุนต่างชาติจะปรับลดสัดส่วนการลงทุนในตลาดตราสารหนี้ และอาจมีการโยกย้ายเงินทุนเข้าตลาดหุ้นมากขึ้น อย่างไรก็ตามหากปัจจัยทางการเมืองยืดเยื้อ เช่น เกิดการชุมนุมเพื่อประท้วงคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) หรือ ไม่สามารถเลือกรัฐบาลที่มีอำนาจเต็มได้ตาม Roadmap ที่กำหนด อาจส่งผลให้นักลงทุนโยกย้ายเงินทุนกลับมายังตลาดตราสารหนี้อีกครั้งเพื่อลดความเสี่ยง