อนึ่ง ทาง GL ได้แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทอนุมัติให้บริษัทเข้าซื้อหุ้นสามัญของบริษัท ธนบรรณ จำกัด จำนวน 5,649,600 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 100 บาท คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 99.99 ของหุ้นที่ชำระแล้วทั้งหมดของธนบรรณ รวมมูลค่าไม่เกิน 1.53 พันล้านบาท (รวมหนี้สินและภาระผูกพันทั้งหมด)จากธนาคารไทยเครดิต เพื่อรายย่อย
สำหรับการซื้อขายกิจการธนบรรณครั้งนี้ นับเป็น Win-Win สำหรับทั้ง 2 ฝ่าย เนื่องจากธนาคารไทยเครดิตเพื่อรายย่อยสามารถขายสินทรัพย์ที่ไม่ใช่ธุรกิจหลัก ในขณะที่ GL เอง ไม่เพียงแต่สามารถขยายพอร์ตสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์แล้ว ยังสามารถใช้ฐานข้อมูลและเครือข่ายลูกค้าของธนบรรณในการขยายตลาดเข้าสู่ธุรกิจรถจักรยานยนต์แลกเงินสด และสินเชื่อรถจักรยานยนต์มือสอง ที่มีมาร์จินการทำกำไรสูงกว่าธุรกิจเช่าซื้อ
“สำหรับ GL เอง การซื้อกิจการครั้งนี้ ถือเป็นก้าวย่างที่สำคัญ ซึ่งสอดคล้องกับยุทธศาสตร์การขยายธุรกิจเชิงรุก โดยปกติแล้ว เราต้องลงทุนเป็นอย่างมากในการสร้างพอร์ตสินเชื่อที่มีขนาดใหญ่เท่ากับธนบรรณ แต่ในกรณีนี้ เราควบรวมพอร์ตสินเชื่อของธนบรรณมูลค่า 1,500 ล้านบาท โดยไม่มีต้นทุนค่าใช้จ่าย" นายมิทซึจิ กล่าว
ผลประโยชน์ที่เด่นชัดอีกส่วนหนึ่งสำหรับ GL คือโอกาสการขยายธุรกิจสินเชื่อเพื่อรายย่อยในต่างจังหวัด โดยอาศัยฐานข้อมูลและเครือข่ายลูกค้าของธนบรรณ เพื่อรองรับโอกาสทางธุรกิจที่มองว่า ธุรกิจสินเชื่อเพื่อรายย่อยในประเทศไทยมีศักยภาพขยายตัวได้อย่างมหาศาล แถมยังมีมาร์จินการทำกำไรที่สูงกว่า