TSR มีทุนชำระแล้ว 344 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท ประกอบด้วยหุ้นสามัญเดิม 258 ล้านหุ้นและหุ้นสามัญเพิ่มทุน 86 ล้านหุ้น โดยเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนทั้งจำนวนต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก(IPO) ในราคาหุ้นละ 3.50 บาท มีมูลค่าระดมทุน 301 ล้านบาท โดยมี บล.ธนชาต เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย
"มีความเชื่อมั่นใจนักลงทุนจะให้การต้อนรับหุ้น TSR อย่างดี เหมือนเช่นเดียวกับช่วงที่เปิดจองไอพีโอ ซึ่งมียอดจองเข้ามาจำนวนมาก สิ่งสำคัญคือนักลงทุนมีความเข้าใจในตัวธุรกิจเครื่องกรองน้ำภายในครัวเรือนมากขึ้นจากการเดินสายให้ข้อมูลพบนักลงทุนในช่วงที่ผ่านมา ทำให้มองเห็นภาพรวมธุรกิจที่มีโอกาสเติบโตอย่างสูงชัดเจน จากมูลค่าตลาดรวมในประเทศใหญ่มหาศาลหลายพันล้านบาท ประกอบกับเรามีแผนการดำเนินธุรกิจหลังจากเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่ชัดเจนช่วยเพิ่มศักยภาพให้บริษัทอย่างมาก เช่น ลงทุนก่อสร้างโรงงานใหม่, ขยายสาขาสำนักงานขายและศูนย์บริการทั่วประเทศ และการวางจำหน่ายผลิตภัณฑ์ใหม่ น่าจะทำให้นักลงทุนเกิดความเชื่อมั่นในศักยภาพของบริษัท และรอโอกาสเข้ามาลงทุนในวันพรุ่งนี้อย่างคึกคัก" นายวีรวัฒน์ กล่าว
นายวีรวัฒน์ กล่าวว่า บริษัทฯวางเป้าหมายปีนี้รายได้จะเติบโตได้ 20% จากปีก่อนที่ 1,012 ล้านบาท และคาดภายในปี 59 รายได้จะเติบโตเป็น 2 เท่า หรือแตะ 2,000 จากการปรับเพิ่มราคาสินค้า เพิ่มช่องทางการจัดจำหน่าย บริษัทตั้งเป้ายอดขายเครื่องกรองน้ำเติบโต 10% จากปีก่อนมียอดขาย 108,000 เครื่อง โดยปัจุบันบริษัทฯมีสัดส่วนรายได้จากในกรุงเทพฯ 90% และต่างจังหวัด 10% อีกทั้งยังมองว่าจากการเพิ่มช่องทางการขายผ่านโมเดิร์นเทรด และการโฆษณาสินค้า จะส่งผลให้สัดส่วนรายได้ต่างจังหวัดจะเพิ่มขึ้นมาเป็น 20% ได้ในปี 58
ส่วนกำไรปีนี้เชื่อว่าจะทำได้มากกว่า 100 ล้านบาท จากปีก่อนมีกำไรที่ 76 ล้านบาท (ไม่นับกำไรพิเศษ) โดยอัตรากำไรสุทธิ (Net margin) จะเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 10% จากปีก่อนอยู่ที่ 8% เนื่องจากบริษัทมีการเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่ายเพื่อลดรายจ่ายค่าคอมมิชชั่น ซึ่งจากเดิมมีการใช้ช่องทางการขายเพียงช่องทางเดียวคือ ในลักษณะ Call center
สำหรับแผนการรุกตลาดต่างประเทศ ขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างการศึกษาตลาดในฟิลิปปินส์และอินโดนีเซีย โดยมองว่าคุณภาพน้ำน่าจะใกล้เคียงกับประเทศไทย ซึ่งน่าจะมีโอกาสเข้าไปลงทุนในลักษณะร่วมทุนกับพันธมิตร คาดว่าน่าจะเห็นความชัดเจนได้ในปี 60
"ที่ผ่านมาผลประกอบการเรามีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งปีนี้เราได้ตั้งเป้ารายได้เติบโต 20% กำไรจะมากกว่า 100 ล้านบาท โดยจะมีการรุกตลาดต่างจังหวัดอย่างจริงจังคาดว่าภายในปี 59 รายได้จะเติบโตเป็น 2 เท่า หรือแตะ 2,000 ล้านบาท จากการขยายสาขาเพ่มขึ้น ขณะที่ภายใน 2 เดือนนี้ ก็จะมีการออกผลิตภัณฑ์ใหม่อีก 4 รุ่น ได้แก่ เครื่องกรองน้ำขนาดเล็ก เหยือกกรองน้ำใช้ในออฟฟิศ เครื่องกรองน้ำระบบ Reverse Osmosis System และเครื่องกรองน้ำระบบ UV โดยคุณสมบัติจะให้ทั้งแร่ธาตุและให้ความเป็นด่างทั้งหมด"นายวีรวัฒน์ กล่าว
ทั้งนี้ เงินที่ได้จากการระดมทุนในครั้งนี้จะนำเงินไปลงทุนในการสร้างโรงงานใหม่จำนวน 60 ล้านบาท ปรับปรุงระบบคอมพิวเตอร์ใหม่ จำนวน 20 ล้านบาท และขยายสาขาสำนักงานขายเพิ่มเป็น 7 สาขา รวมถึงขยายศูนย์บริการลูกค้าเป็น 8 แห่ง ซึ่ง ณ สิ้นปี 57 จะมีสาขารวมทั้งสิ้น 15 แห่ง ใช้เงินลงทุนจำนวนไม่เกิน 1 ล้านบาทต่อแห่ง โดยปัจจุบันบริษัทมีสำนักงานขายอยู่ 4 สาขา และศูนย์บริการลูกค้าอยู่ที่ 6 แห่ง และส่วนที่เหลือจะใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน
นางสาวสุวภา เจริญยิ่ง กรรมการผู้จัดการ บล.ธนชาต ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน (FA) และผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้น TSR กล่าวว่า TSR เป็นหนึ่งหุ้นไอพีโอที่นักลงทุนรอคอย เพราะเป็นบริษัทที่มีพื้นฐานคุ้มค่า เหมาะสมกับการลงทุน จากบทวิเคราะห์หุ้น TSR ในตลาด คาดการณ์ผลการดำเนินงานของบริษัทจะเติบโตอย่างต่อเนื่อง
"หุ้น TSR ถือเป็นหนึ่งในหุ้น IPO ที่มีความโดดเด่น ทั้งในแง่ของภาพรวมอุตสาหกรรมฯ และ บริษัทมีความแข็งแกร่ง มีศักยภาพในการก้าวขึ้นเป็นผู้นำเบอร์หนึ่งของตลาดเครื่องกรองน้ำดื่มภายในครัวเรือนในประเทศ มีแผนการดำเนินธุรกิจที่ชัดเจน ซึ่ง บล.ธนชาต ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน และผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้น เชื่อว่าหุ้น TSR จะสามารถช่วยสร้างสีสันให้หุ้นในหมวดสินค้าอุปโภคบริโภค / ของใช้ในครัวเรือนและสำนักงาน ได้เป็นอย่างดี" นางสาวสุวภา กล่าว