ปตท.และบริษัทในกลุ่ม ปตท. ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ในการประกอบกิจการผลิตปิโตรเลียมใน จ.เพชรบูรณ์ ตามที่เป็นข่าว นอกจากการรับซื้อน้ำมันดิบทั้งหมดเพื่อใช้ภายในประเทศ ที่มีการทำสัญญาซื้อขายอย่างถูกต้องตามกฎหมายมาตั้งแต่ปี 2551 จนถึงปี 2561 โดยส่งต่อให้โรงกลั่นในประเทศซึ่งปริมาณดังกล่าวคิดเป็นเพียงประมาณ 2% ของการผลิตน้ำมันดิบในประเทศเท่านั้น ในขณะที่ประเทศไทยต้องนำเข้าน้ำมันดิบถึงประมาณ 80% เพื่อให้เพียงพอต่อการใช้ในประเทศ
ด้านนายทรงภพ พลจันท์ อธิบดีกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ กระทรวงพลังงาน ชี้แจงกรณีมีคลิปภาพเผยแพร่ลักลอบผลิตน้ำมันในพื้นที่ สปก.จ.เพชรบูรณ์ว่า บริษัท อีโค่ โอเรียนท์ รีซอสเซส สัญชาติฮ่องกง มีสิทธิในการดำเนินการในพื้นที่สัมปทาน และดำเนินการเสียค่าภาคหลวงปิโตเลียมมาตลอด เป็นเงินถึง 1,500 ล้านบาท
ส่วนประเด็นที่มีการอ้างว่า เกิดการลักลอบผลิตใน 6 ฐาน ที่ อยู่ในพื้นที่ สปก. จากการตรวจสอบ สปก.รายงานว่า มีเพียง 5 ฐานที่อยู่ในเขต และสั่งระงับไปแล้ว ส่วนอีก 1 ฐานสามารถดำเนินการได้ตามปกติ
พร้อมยืนยันว่า ประเทศไทยไม่ได้มีแหล่งพลังงานมหาศาล เมื่อเทียบเท่ากับประเทศแถบตะวันออกกลาง หรือประเทศเพื่อนบ้าน โดยกำลังการผลิตน้ำมันดิบต่อวันของไทย อยู่ที่ 1 แสน 4 หมื่นบาเรล์ ขณะที่ต้องนำเข้า ถึง 8 แสนห้าหมื่นบาเรล์ต่อวัน หรือคิดเป็นกำลังผลิตในประเทศร้อยละ 15 เท่านั้น