ส่วนกรรมการที่เหลือจะลาออกหรือไม่เป็นสิทธิส่วนตัว โดยส่วนใหญ่เป็นกรรมการจากผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และมีผู้ทรงคุณวุฒิ 4 คน
ทั้งนี้ การที่ประธาน รฟม.ลาออก ส่งผลกระทบต่อการดำเนินการประกวดราคาก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต ระยะทาง 18.4 กม. มูลค่าโครงการ 26,569 ล้านบาท ที่จะต้องล่าช้าออกไปอีก จากปัจจุบันที่ล่าช้ากว่าแผนแล้วกว่า 3 เดือน เนื่องจากกำหนดว่าจะเสนอขอความเห็นชอบต่อที่ประชุมคณะกรรมการ รฟม.ในวันที่ 19 มิ.ย.เพื่อปรับปรุงรายละเอียดเงื่อนไขทีโออาร์ แต่เมื่อไม่มีการประชุมเรื่องจึงต้องระงับและต้องรอจนกกว่าจะมีการแต่งตั้งประธานคนใหม่
ดังนั้น จึงเท่ากับว่าในขณะนี้ยังไม่มีการรับรองการปรับแก้ทีโออาร์ การประมูลรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต ตามที่คณะกรรมการ รฟม.มีมติในการประชุมครั้งที่แล้ว และยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงทีโออาร์ที่ได้ประกาศไว้เดิม รวมถึงกรณีที่จะเปิดขายซองประมูลในรอบสองก็จะยังไม่มีผลเช่นกัน
การกำหนดทีโออาร์ของ รฟม.ที่ผ่านมาในการประมูลรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินเฉลิมรัชมงคล สายสีม่วง(บางใหญ่-บางซื่อ) สายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย (หัวลำโพง-บางแค และ บางซื่อ-ท่าพระ) สายสีเขียวใต้ (บริ่ง-สมุทรปราการ) เป็นการประมูลแบบนานาชาติ และยึดตามหลักขององค์การความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งญี่ปุ่น(JIGA)ที่กำหนดมาตรฐานและคุณสมบัติของผู้เข้าร่วมประมูลค่อนข้างสูงเพื่อวัตถุประสงค์ที่ความสำเร็จของงาน ไม่ให้เกิดการทิ้งงาน ซึ่งจะมีผู้รับเหมาเข้าร่วมประมูลได้น้อย 8-10 ราย JIGA จึงปรับลดเกณฑ์ลงบ้าง แต่ยังอยู่ในระดับที่เป็นมาตรฐาน โดยหลังเปิดขายซองสายสีเขียวเหนือ ช่วงหมอชิต-คูคต มีผู้รับเหมาซื้อเอกสารไปมากถึง 31 ราย
นายยงสิทธิ์ กล่าวว่า ยังมีเรื่องค้างที่ต้องรอบอร์ดชุดใหม่พิจารณา คือ การการประเมินผลการทำงานของผู้ว่าฯรฟม.และนายธนสาร สุรวุฒิกุล หัวหน้าเจ้าหน้าที่ด้านการเงิน (CFO) ในรอบ 6 เดือน (ก.ย.56-มี.ค.57)อีกด้วย
อนึ่ง เมื่อวันที่ 23 พ.ค.ที่ผ่านมา คณะกรรมการ รฟม.มีมติให้ปรับแก้ทีโออาร์การประมูลสายสีเขียว ช่วงหมอชิต-คูคต เกี่ยวกับการกำหนดคุณสมบัติและการให้คะแนน ในส่วนของข้อกำหนดรายได้เฉลี่ยจากการก่อสร้างของผู้เสนอราคาย้อนหลัง 3 ปี(Tureover)ในอัตรา 2.5% ของมูลค่าแต่ละสัญญาเหมือนกันทุกสัญญา จากเดิมที่ใช้หลักนี้เฉพาะสัญญาที่ 1 และหากคำนวนมูลค่างานย้อนหลังในอัตร 2.5% แล้วมีเศษ ให้ปัดเศษนั้นขึ้นเป็นจำนวนเต็มหลักร้อยล้านบาทจากเดิมปัดใช้หลักพันล้านบาท เพื่อให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน หลังจากมีผู้รับเหมาทำหนังสือร้องเรียนมาที่รฟม.ว่าอาจทำให้เอื้อประโยชน์ต่อผู้รับเหมารายใดรายหนึ่ง