ภาวะตลาดตราสารหนี้ไทย: วันนี้มีมูลค่าการซื้อขายรวม 83,095 ล้านบาท

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday June 19, 2014 18:38 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (ThaiBMA) สรุปภาวะตลาดตราสารหนี้ไทยวันนี้มีมูลค่าการซื้อขายรวม 83,095 ล้านบาท โดยประเภทของตราสารที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงที่สุด คือ พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย โดยมีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 57,659 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 69.4% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมดที่เกิดขึ้นในวันนี้ ลำดับถัดมาคือ พันธบัตรรัฐบาล มีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 20,894 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 25.1% ทางด้าน หุ้นกู้เอกชน มีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 1,248 ล้านบาท หรือคิดเป็น 1.5% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมด

สำหรับ พันธบัตรรัฐบาล รุ่นที่นิยมซื้อขายสูงสุดในวันนี้คือ พันธบัตรรุ่น LB196A, LB21DA และ LB155A (รุ่นอายุ 5.0 ปี, 7.5 ปี และ 0.9 ปี ตามลำดับ) โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 14,320 ล้านบาท หรือคิดเป็น 69% ของมูลค่าการซื้อขายพันธบัตรรัฐบาลทั้งหมด ทางด้าน หุ้นกู้เอกชน รุ่นที่นิยมซื้อขายสูงสุด 3 อันดับแรกในวันนี้ คือ

1. หุ้นกู้ไม่มีประกันของบริษัท ปตท. จำกัด(มหาชน)(PTTC167A) มูลค่า 212.3 ล้านบาท

2. หุ้นกู้ของบริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด(มหาชน)(CPN15OA) มูลค่า 191.3 ล้านบาท

3. หุ้นกู้ บริษัท การบินไทย จำกัด(มหาชน)(THAI17OA) มูลค่า 162.2 ล้านบาท

โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 565.8 ล้านบาท หรือคิดเป็น 45.3% ของมูลค่าการซื้อขายหุ้นกู้เอกชนทั้งหมดในวันนี้

ทางด้านประเภทของนักลงทุน ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงที่สุดเป็น 2 อันดับแรกในวันนี้ คือ

1. กลุ่มบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) มียอดซื้อสุทธิ เท่ากับ 4,290 ล้านบาท

2. กลุ่มบริษัทจดทะเบียนในประเทศ มียอดขายสุทธิ เท่ากับ -830 ล้านบาท

ในขณะที่นักลงทุนต่างชาติ มียอดซื้อสุทธิ เท่ากับ 8,412 ล้านบาท

ผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลอายุ 3 เดือน ปิดที่ 2.04% ไม่มีการเปลี่ยนแปลงจากเมื่อวาน และผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลอายุ 5 ปี ปิดที่ 3.14% ไม่มีการเปลี่ยนแปลงจากเมื่อวาน

>>ภาพรวมของตลาดในวันนี้

Yield Curve ค่อนข้างนิ่งในทุกช่วงอายุตราสาร เปลี่ยนแปลงไม่เกิน 1 bp. ล่าสุดผลการประชุม FOMC ของสหรัฐฯ Fed มีมติปรับลดขนาด QE ลงอีก 1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ลงมาอยู่ที่ระดับ 3.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อเดือน ตามที่ตลาดคาดไว้ และปรับลดประมาณการ GDP ปี 2557 ลงจาก 2.8-3.0% มาอยู่ที่ 2.1-2.3% โดย Fed ส่งสัญญาณว่าจะยังคงดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับ 0-0.25% ต่อไป สำหรับนักลงทุนต่างชาติมีแรงซื้อในพันธบัตรระยะสั้น ยอดซื้อสุทธิ (NET BUY) เท่ากับ 8,412 ล้านบาท


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ