สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (ThaiBMA) สรุปภาวะตลาดตราสารหนี้ไทยวันนี้มีมูลค่าการซื้อขายรวม 81,533 ล้านบาท โดยประเภทของตราสารที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงที่สุด คือ พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย โดยมีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 65,212 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 80.0% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมดที่เกิดขึ้นในวันนี้ ลำดับถัดมาคือ พันธบัตรรัฐบาล มีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 9,574 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 11.7% ทางด้าน หุ้นกู้เอกชน มีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 1,341 ล้านบาท หรือคิดเป็น 1.6% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมด
สำหรับ พันธบัตรรัฐบาล รุ่นที่นิยมซื้อขายสูงสุดในวันนี้คือ พันธบัตรรุ่น LB196A, LB155A และ LB21DA (รุ่นอายุ 5.0 ปี, 0.9 ปี และ 7.5 ปี ตามลำดับ) โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 6,789 ล้านบาท หรือคิดเป็น 71% ของมูลค่าการซื้อขายพันธบัตรรัฐบาลทั้งหมด ทางด้านหุ้นกู้เอกชนรุ่นที่นิยมซื้อขายสูงสุด 3 อันดับ แรกในวันนี้ คือ
1. หุ้นกู้มีประกันของบริษัท โตโยต้า ลีสซิ่ง(ประเทศไทย) จำกัด(TLT175A) มูลค่า 194.5 ล้านบาท
2. หุ้นกู้บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด(มหาชน)(DTAC148A) มูลค่า 181.9 ล้านบาท
3. หุ้นกู้บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด(มหาชน)(CPF178A) มูลค่า 165.7 ล้านบาท
โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 542.2 ล้านบาท หรือคิดเป็น 40.4% ของมูลค่าการซื้อขายหุ้นกู้เอกชนทั้งหมดในวันนี้
ทางด้านประเภทของนักลงทุน ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงที่สุดเป็น 2 อันดับแรกในวันนี้ คือ
1. กลุ่มบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) มียอดซื้อสุทธิ เท่ากับ 3,062 ล้านบาท
2. กลุ่มบริษัทจดทะเบียนในประเทศ มียอดซื้อสุทธิ เท่ากับ 1,704 ล้านบาท
ในขณะที่นักลงทุนต่างชาติ มียอดซื้อสุทธิ เท่ากับ 3,550 ล้านบาท
ผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลอายุ 3 เดือน ปิดที่ 2.04% ไม่มีการเปลี่ยนแปลงจากเมื่อวาน และผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลอายุ 5 ปี ปิดที่ 3.15% ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเมื่อวาน 0.01%
Yield Curve ค่อนข้างนิ่ง โดยปรับเพิ่มขึ้นเล็กน้อยในตราสารรุ่นอายุ 3-5 ปี ประมาณ 1 bp. เนื่องจากยังขาดปัจจัยใหม่ๆ ด้านนักลงทุนยังคงติดตามตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ล่าสุดจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน (Jobless Claims) ลดลง 6,000 ราย สู่ระดับ 312,000 รายซึ่งส่งผลต่อ Global Sentiment ในเชิงบวก สำหรับนักลงทุนต่างชาติ วันนี้มียอดซื้อสุทธิ (NET BUY) เท่ากับ 3,550 ล้านบาท (ยอด Holding ณ สัปดาห์นี้ เพิ่มขึ้น 8,986 ล้านบาท เป็น 655,364 ล้านบาท จากสัปดาห์ที่ผ่านมาซึ่งอยู่ที่ 646,378 ล้านบาท โดยมียอด Expired เท่ากับ 4,464 ล้านบาท)