(เพิ่มเติม) BEAUTY งบลงทุนปีนี้ 380-400 ลบ.ตั้งเทรนนิ่งเซ็นเตอร์-แวร์เฮ้าส์-ขยายสาขา

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday June 23, 2014 14:03 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายแพทย์สุวิน ไกรภูเบศ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.บิวตี้ คอมมูนิตี้ (BEAUTY) คาดว่าในปีนี้จะใช้งบลงทุนรวมประมาณ 380-400 ล้านบาทเพื่อเปิดศูนย์ฝึกอบรม คลังสินค้า และ ขยายสาขา โดยเฉพาะในต่างประเทศ เพื่อให้บริษัทเติบโตได้อย่างต่อเนื่องจากปีนี้ แม้ว่าช่วงต้นปีที่ผ่านมาภาพรวมเศรษฐกิจจะชะลอลง แต่ยอดขายของบริษัทในครึ่งปีแรกยังน่าจะเติบโตได้มากกว่า 20.6% จึงมั่นใจว่าทั้งปีจะทำผลงานได้ตามเป้าหมาย

นายแพทย์สุวิน คาดว่าอัตรากำไรขั้นต้น (Gross profit margin) จะลดลงเล็กน้อยจากปีก่อนอยู่ที่ 70% เนื่องจากบริษัทฯรับสินค้าแบรนด์อื่นมาขายในส่วนของ BEAUTY MARKET มากขึ้น ทำให้มีกำไรน้อยลง

สำหรับแผนการตลาดครึ่งปีหลังนี้บริษัทฯเตรียมงบลงทุนไว้จำนวน 380-400 ล้านบาท จะเน้นการพัฒนาบุคลากรในด้านการบริการ ณ จุด ขาย และปรับปรุงระบบ CRM ในสาขาเดิมเพื่อเพิ่มยอดขายของร้าน BEAUTY BUFFET ,BEAUTY COTTAGE และ BEAUTY MARKET ซึ่งจะใช้เงินลงทุนทั้งสิ้น 180 ล้านบาท รวมถึงเน้นการตลาดผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้นทั้งในแง่ของการแนะนำผลิตภัณฑ์และช่องทางการจำหน่าย และลงทุนด้านแวร์เฮ้า อีก 20 ล้านบาท

ส่วนแผนการขยายสาขาในประเทศปีนี้จะมีการขยายสาขาเพิ่มอีก 65 สาขา แบ่งเป็น BEAUTY MARKET 15 สาขา จากปัจจุบันมีจำนวน 6 สาขา BEAUTY BUFFET เปิดเพิ่ม 30 สาขา จากปัจจุบันมี 187 สาขา และ BEAUTY COTTAGE เพิ่มอีก 20 สาขา จากปัจจุบันมี 56 สาขา โดยจะใช้เงินลงทุนต่อสาขาราว 7 ล้านบาท

อีกทั้งการขยายสาขาในต่างประเทศ CLMV ปีนี้บริษัทฯจะขยายสาขาเพิ่มอีก 13 สาขา จากปี 56 มีสาขาอยู่ที่ 6 สาขา โดยจะแบ่งเป็นในประเทศกัมพูชาจำนวน 4 สาขา เวียดนาม 4 สาขา ลาว 3 สาขา และพม่า 2 สาขา ซึ่งจะเป็น BEAUTY BUFFET 8 สาขา BEAUTY COTTAGE 5 สาขา อย่างไรก็ตามนอกจากประเทศ CLMV แล้ว บริษัทก็ยังมองตลาดใน AEC อีกด้วย โดยขณะนี้ก็มีการพิจารณาถึงศักยภาพของประเทศอินโดนีเซีย ในลักษณะเป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้าให้กับบริษัทฯ ซึ่งปัจจุบันลูกค้าชาวอินโดนีเซีย มีการใช้ผลิตภัณฑ์มากขึ้น จากที่มีการเริ่มนำสินค้าจากบริษัทฯไปขาย

ทั้งนี้ บริษัทฯยังคงเป้าหมายการเติบโตของรายได้ปีนี้ไว้ที่ 30% และกำไรสุทธิเติบโตไม่ต่ำกว่า 20% โดยมองแนวโน้มการเติบโตในช่วงครึ่งปีหลังนี้จะเติบโตดีกว่าครึ่งปีแรก ซึ่งในไตรมาสแรกมียอดขายราว 20.6% เนื่องจาก ตลาดเครื่องสำอางจะมีความคึกคักมากยิ่งขึ้น จากภาวะเศรษฐกิจและความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่มีการปรับตัวดีขึ้น โดยมองว่าไตรมาส 2/57 จะเห็นได้ว่าในช่วงเดือนเม.ย. พ.ค. และมิ.ย. ยอดขายปรับตัวดีขึ้นอย่างมากประกอบกับไตรมาส 3 และ 4 จะเป็นช่วงไฮซีซั่นของตลาดเครื่องสำอาง

"เรายังคงมองโลกในแง่ดีอยู่ แม้ไตรมาสแรกยอดขายไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ซึ่งก็ยอมรับว่าเราก็ได้รับผลกระทบบ้าง แต่เชื่อว่าทั้งปีรายได้ก็น่าจะเติบโตได้ 30% กำไรโตไม่ต่ำกว่า 20% จากครึ่งปีหลังกำลังซื้อเริ่มกลับเข้ามา ขณะที่พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงมากขึ้น ซึ่งเป็นไปตามการเจริญเติบโตของสังคมเมืองและโซเชียลมีเดีย ขณะที่ลูกค้ามีความต้องการที่หลากหลายมากขึ้น และเราก็จะมีการเน้นทำการตลาดและขยายสาขาเพิ่มขึ้นอีกด้วย"นายแพทย์สุวิน กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ