VTE เผยเริ่มขายถ่านหินพร้อมรับรู้ฯทันที Q3/57 มั่นใจปี 58 เทิร์นอะราวด์

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday June 23, 2014 14:06 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายโสรัจ โรจนเบญจกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.วินเทจ วิศวกรรม (VTE) เปิดเผยว่า จะเริ่มรับรู้รายได้จากธุรกิจถ่ายหินตั้งแต่เดือนมิถุนายนนี้ โดยผ่านการดำเนินธุรกิจของบริษัทลูกคือ Worldmax Management ซึ่ง VTE ที่ถือหุ้น 100% ที่ทำธุรกิจเทรดดิ้งถ่านหิน หลังจากเซ็นสัญญาบริหารเหมือง(Offtake)พร้อมจัดจำหน่ายถ่านหินกับ PT. Bangun Jaya Citra Mandiri (BJCM) บนเกาะสุมาตรา ซึ่งจะเริ่มนำถ่านหินออกมาขายและรับรู้รายได้ในเดือนนี้ โดยได้ตกลงทำสัญญาร่วมกันเป็นเวลา 2 ปี มีกำลังการผลิตและสามารถจำหน่ายถ่านหินเฉลี่ยปีละ 3 แสนตัน

และล่าสุดเมื่อวันที่ 20 มิ.ย.Worldmax Management ได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจ (MOU) Exclusive Selling and Distribution กับบริษัท PT. China Coal Geology Mining ซึ่งเป็นบริษัทลูกของรัฐวิสาหกิจจีน ในประเทศอินโดนีเซีย โดย Worldmax Management ได้รับสิทธิแต่เพียงผู้เดียวในการนำถ่านหินออกมาจำหน่ายจากเหมืองบนเกาะ Kalimantan จำนวน 4 เหมือง จากทั้งหมด 11 เหมือง โดยได้ตกลงทำสัญญาร่วมกันเป็นเวลา 2 ปี ซึ่งในเบื้องต้นจะมีผลผลิตถ่านหิน 100,000 ตัน/เดือน และเพิ่มขึ้นถึง 300,000 ตัน/เดือน ส่วนที่เหลืออีก 7 เหมืองอยู่ระหว่างการเจรจาในการเป็นตัวแทนจัดจำหน่ายเช่นเดียวกัน

“ถ่านหินที่เราได้บริหารและเป็นตัวแทนจำหน่ายในครั้งนี้ จะนำไปขายให้กับบริษัท Tader Coal SMC จำกัด บริษัทยักษ์ใหญ่ในธุรกิจถ่านหินในประเทศจีน ซึ่งที่ผ่านมาได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจ (MOU) การรับซื้อถ่านหินไปเรียบร้อยแล้ว โดยลูกค้ารายนี้ ต้องการปริมาณถ่านหินขั้นต่ำถึง 2.5 ล้านตัน/เดือน อย่างไรก็ตาม Worldmax Management สามารถผลิตและป้อนถ่านหินให้ได้ประมาณ 3 แสนตัน/เดือน เท่านั้น แต่ในอนาคตหากสามารถขุดถ่านหินมาจำหน่ายได้มากขึ้นก็สามารถที่จะขายได้เพิ่มขึ้น โดยลูกค้ายินดีที่จะรับซื้อทั้งหมด"นายโสรัจ กล่าว

VTE จะเริ่มรับรู้รายได้จากธุรกิจถ่านหินได้ตั้งแต่ไตรมาส 3/57 นี้เป็นต้นไป และภาพรวมในปีนี้น่าจะเริ่มเห็นผลประกอบการที่โดดเด่นขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับปี 2556 ที่ผ่านมา แต่จะขยายตัวขึ้นอย่างมากในปี 2558 โดยจะเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ สัดส่วนรายได้จากธุรกิจถ่านหินจะอยู่ที่ 60-70% เมื่อเทียบกับรายได้ในส่วนของวิศวกรรมที่อยู่ที่ประมาณ 600 ล้านบาท/ปี และเชื่อว่าจะเป็นปีที่บริษัทเริ่มกลับมามีกำไรอย่างโดดเด่น และถือเป็นปีแห่งการเทิร์นอะราวน์ ผ่านการรุกคืบเข้าสู่ธุรกิจพลังงาน เพื่อเพิ่มสัดส่วนรายได้และกระจายความเสี่ยงการทำธุรกิจ

นายโสรัจ กล่าวต่อว่า บริษัทพร้อมรุกธุรกิจพลังงานเต็มตัวโดยเฉพาะธุรกิจถ่านหินในประเทศอินโดนีเซีย หลังเริ่มเข้าสู่ธุรกิจนี้ด้วยการเข้าซื้อหุ้นในบริษัท SMI ตั้งแต่ปีที่แล้ว ผ่านการเข้าถือหุ้นในสัดส่วน 25% มูลค่าลงทุน 600 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะเริ่มขุดถ่านหินได้ในช่วงไตรมาส 4/2557 โดยมีอายุสัมปทาน 5 ปี และปริมาณสำรองถ่านหิน 50 ล้านตัน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ