นายสรพล เตชะไกรศรี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร PACE เปิดเผยว่า บริษัทคาดรายได้ปีนี้จะอยู่ที่ราว 300 ล้านบาท โดยจะรับรู้รายได้จากโครงการ คิวบ์ ไลฟ์สไตล์ รีเทล เซ็นเตอร์ ในโครงการมหานครที่เริ่มมีการรับรู้รายได้จากค่าเช่าเข้ามาแล้ว รวมถึงการโอนโครงการเก่าที่เหลืออยู่ราว 200 ล้านบาท ทั้งโครงการศาลาแดง เรสซิเดนเซส และโครงการไฟคัส เลน สุขุมวิท 44
ขณะที่ปี 58 คาดรายได้จะเติบโตก้าวกระโดดขึ้นไปแตะหลักพันล้านบาท ซึ่งจะส่งผลให้บริษัทพลิกกลับมามีกำไร โดยจะเป็นการเริ่มรับรู้รายได้จากค่าสมาชิกสโมสรในโครงการมหาสมุทรตั้งแต่กลางปี 58 ซึ่งมีมูลค่าโครงการถึง 2 พันล้านบาท รวมถึงการขายโซนที่พักอาศัย มูลค่าโครงการราว 3.2 พันล้านบาท โดยจะเริ่มเปิดขายในช่วง ส.ค.-ก.ย.57 นี้ และโครงการมหานครที่จะเริ่มโอนได้ในช่วงปลายปี 58 จากที่ปัจจุบันมียอดขายแล้วกว่า 6 พันล้านบาท
"ปีนี้รายได้ของเราคงจะยังไม่มาก เพราะโครงการใหญ่ๆของเรายังไม่สามารถโอนได้ ซึ่งโครงการต่างๆนั้นยังต้องมีค่าใช้จ่ายในการขายอยู่ทำให้ปีนี้เราก็ยังจะขาดทุน แต่ปีหน้าเราจะกลับมามีกำไรได้เพราะเราจะเริ่มรับรู้รายได้ตั้งแต่กลางปี ทั้งในโครงการ มหาสมุทร และมหานคร"นายสรพล กล่าว
สำหรับโครงการคอนโดมิเนียม ซอยหลังสวน บริษัทคาดว่าจะเริ่มเปิดขายได้ในช่วงปลายปี 57-ต้นปี 58 มูลค่าโครงการราว 6 พันล้านบาท โดยช่วงเวลาที่เปิดขายจะพิจารณาความเหมาะสมของสถานการณ์ทั้งทางด้านการเมือง รวมถึงเศรษฐกิจ
นายสรพล กล่าวอีกว่า แผนนำโครงการมหานคร คิวบ์ฯ มูลค่าโครงการ 1,500 ล้านบาท ขายเป็นสินทรัพย์ของกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REIT) นั้น ยังคงเดินหน้าไปตามแผนงานที่อยู่ระหว่างรอความชัดเจนเกี่ยวกับกฎเกณฑ์ต่างๆ ของทางการ คาดว่าในช่วงปลายปีนี้น่าจะเห็นความชัดเจน นอกจากนั้น บริษัทยังมีแผนออกหุ้นกู้อีก 1.5 พันล้านบาทในปลายปีนี้ถึงช่วงต้นปี 58 ซึ่งขึ้นอยู่กับสถานการณ์ และความจำเป็นของบริษัท
นายสรพล กล่าวถึงภาพตลาดอสังริมทรัพย์กลุ่มไฮเอนด์ว่า ในปีนี้ยังมีแนวโน้มการเติบโตค่อนข้างดี ถึงแม้ว่าสถานการณ์เศรษฐกิจจะชะลอตัว แต่อย่างไรก็ตาม ตลาดกลุ่มไฮเอนด์ก็ยังไม่ได้รับผลกระทบ ซึ่งยอดขายในส่วนของโครงการมหานครเองนั้นในช่วง 5 เดือนที่ผ่านมามียอดขายแล้วกว่า 6 พันล้านบาท และยังมีผู้ให้ความสนใจเข้ามาอย่างต่อเนื่อง