ภาวะตลาดตราสารหนี้ไทยประจำสัปดาห์: มีมูลค่าการซื้อขายรวม 392,961 ลบ.

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday June 23, 2014 18:00 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย(ThaiBMA) สรุปภาวะตลาดตราสารหนี้ประจำสัปดาห์ (16 – 20 มิถุนายน 2557) ปริมาณการซื้อขายตราสารหนี้มีมูลค่ารวม392,961 ล้านบาท หรือเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณวันละ 78,592 ล้านบาท ปรับตัวลดลงจากสัปดาห์ก่อนหน้าประมาณ 6% ทั้งนี้เมื่อแยกตามประเภทของตราสารแล้วจะพบว่ากว่า 68% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมด หรือประมาณ 268,778 ล้านบาท เป็นการซื้อขายในตราสารหนี้ที่ออกโดยธนาคารแห่งประเทศไทย (State Agency Bond) ซึ่งส่วนใหญ่แล้วเป็นตราสารที่มีอายุคงเหลือค่อนข้างน้อย(ไม่เกิน 6 เดือน) ขณะที่พันธบัตรรัฐบาลที่ออกโดยกระทรวงการคลัง(Government Bond) มีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 77,490 ล้านบาท และหุ้นกู้ที่ออกโดยภาคเอกชน (Corporate Bond) มีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 9,505 ล้านบาท หรือคิดเป็น 20% และ 2% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมดที่เกิดขึ้น ตามลำดับ

สำหรับพันธบัตรรัฐบาล รุ่นที่มีปริมาณการซื้อขายสูงที่สุด 3 อันดับแรกคือรุ่น LB196A (อายุ 5.0 ปี) LB176A (อายุ 3.0 ปี) และ LB236A (อายุ 9.0 ปี) โดยมีมูลค่าการซื้อขายในแต่ละรุ่นเท่ากับ 25,853 ล้านบาท 11,783 ล้านบาท และ 11,350 ล้านบาท ตามลำดับ ส่วนพันธบัตรที่ออกโดยธนาคารแห่งประเทศไทย รุ่นที่มีปริมาณซื้อขายสูงสุด 3 อันดับแรก คือรุ่น CB14918B (อายุ 91 วัน)CB14708A(อายุ 14 วัน) และ BOT158A (อายุ 1.2 ปี) มูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 23,516 ล้านบาท 22,057 ล้านบาท และ 16,345 ล้านบาท ตามลำดับ

ขณะที่หุ้นกู้ภาคเอกชน ที่มีปริมาณการซื้อขายสูงที่สุด 3 อันดับแรก ได้แก่ หุ้นกู้ของบริษัท ไทคอน อินดัสเทรียล คอนเน็คชั่น จำกัด(มหาชน)รุ่น TICON16DA (A) มูลค่าการซื้อขาย 610 ล้านบาท หุ้นกู้ของบริษัท ลีสซิ่งไอซีบีซี(ไทย)จำกัด รุ่น ICBCTL149A(AAA) มูลค่าการซื้อขาย 532 ล้านบาท และหุ้นกู้ของบริษัท โตโยต้า ลีสซิ่ง(ประเทศไทย)จำกัด รุ่น TLT155A(AAA) มูลค่าการซื้อขาย 502 ล้านบาท

เส้นอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล (Yield Curve) เคลื่อนไหวอยู่ในกรอบแคบๆ หรือปรับตัวเพิ่มขึ้น / ลดลงในช่วงประมาณ -1 ถึง +3 Basis Point (100 Basis Point มีค่าเท่ากับ 1%)ทั้งนี้ เงินทุนต่างชาติยังคงไหลเข้าสู่ตลาดตราสารหนี้ไทยอย่างต่อเนื่องตามความเชื่อมั่นที่ปรับตัวดีขึ้น หลังเริ่มมีความชัดเจนเกี่ยวกับแนวทางพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ และความขัดแย้งทางการเมืองที่ลดลง ล่าสุดผลการประชุมของคณะกรรมการนโยบายการเงินของไทย(กนง.)เมื่อวันที่ 18 มิ.ย. มีมติเป็นเอกฉันท์(6 ต่อ 0)ให้คงดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับ 2% ต่อปี ขณะที่ผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (FOMC) เมื่อวันที่ 17-18 มิ.ย. มีมติให้ลดขนาดของมาตรการ QE ลงอีกเดือนละ 10,000 ล้านเหรียญ USD จาก 45,000 เหลือ 35,000 ล้านเหรียญ USD/เดือน และธนาคารกลางสหรัฐฯ(Fed) ส่งสัญญาณว่าจะยังคงดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับ 0 – 0.25% ต่อไป อย่างไรก็ตาม เนื่องจากผลการประชุมจากทั้ง 2 ธนาคารกลางล้วนเป็นไปตามที่นักลงทุนคาดการณ์ไว้ในช่วงก่อนหน้านี้ จึงไม่ได้ส่งผลต่อตลาดตราสารหนี้ไทยในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมามากนัก

นักลงทุนต่างชาติมียอด ซื้อสุทธิ ในตราสารหนี้ทุกประเภท(ทั้งระยะสั้น และระยะยาว)รวมกัน 19,765 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นการขายสุทธิในตราสารหนี้ระยะยาว 3,810 ล้านบาท และ ซื้อสุทธิในตราสารหนี้ระยะสั้น(อายุคงเหลือน้อยกว่า 1 ปี) 23,574 ล้านบาท ทางด้านนักลงทุนรายย่อยมียอดขายสุทธิ 294 ล้านบาท


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ