ทั้งนี้ บริษัทคงเป้าหมายระยะยาวที่จะสร้างรายได้แตะปีละ 1 หมื่นล้านบาทภายในปี 61 และผลักดันบริษัทขึ้นสู่บริษัทอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำ 1 ใน 10 ของประเทศไทย
"ปีนี้ปรับเป้ายอดขายและรายได้เพิ่มขึ้น เพราะของเดิมตั้งแบบเป็นไปได้ แต่ปรากฏว่าขายดีขึ้นมาก ในครึ่งแรกยอดขาย 1.2 พันล้านบาทแล้ว ครึ่งหลังรอดูกำลังซื้อโครงการที่จะเปิดก่อน แต่เชื่อว่าเมื่อสถานการณ์ต่างๆ สงบผู้บริโภคก็มั่นใจมากขึ้น ภาวะอสังหาฯครึ่งหลังก็น่าจะฟื้นตัวดี จากที่แบงก์ชาติประเมินจีดีพีครึ่งหลังน่าจะเติบโต 3-5% โครงการแนวราบยังเป็นที่นิยม"
ปัจจุบัน บริษัทมียอดขายสะสม (Backlog) แล้วกว่า 1.2 พันล้านบาท รับรู้ปีนี้ทั้งหมดโดยทยอยรับรู้ตั้งแต่ต้นปี และจะต้องหาเพิ่มอีก 1 พันล้านบาท จากการเปิดโครงการใหม่ในช่วงครึ่งปีหลัง
ในช่วงครึ่งปีหลัง บริษัทจะเปิดขายโครงการใหม่อีก 8 โครงการ ซึ่งเป็นไปตามแผนที่ปีนี้จะเปิดโครงการใหม่ 11 โครงการ รวมมูลค่า 1 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็น ไตรมาส 1/57 เปิดไปแล้ว 3 โครงการ ไตรมาส 3/57 จำนวน 4 โครงการ ได้แก่โครงการบ้านเดี่ยว โกลเด้น เลเจ้นด์ สาทร-กัลปพฤกษ์ มูลค่าโครงการ 375 ล้านบาท, โครงการบ้านเดี่ยวโกลเด้น เพรสทีจ วัชรพล-สุขาภิบาล 5 มูลค่า 1.2 พันล้านบาท
โครงการทาวน์โฮม โกลเด้น ทาวน์ เกษตร-ลาดปลาเค้า มูลค่า 200 ล้านบาท และโครงการทาวน์โฮม โกลเด้น ทาวน์ รัตนาธิเบศร์-สถานีรถไฟฟ้าบางพลู มูลค่า 530 ล้านบาท และในไตรมาส 4 จะเปิดอีก 4 โครงการ
"บริษัทตั้งเป้ารายได้ในปี 58 เพิ่มเป็น 3 พันล้านบาท จากปีนี้ 2.2 พันล้านบาท จากการเปิดโครงการเยอะช่วงครึ่งปีหลังนี้ซึ่งก็เป็นยอดขายและรายได้ต่อเนื่อง และที่จะเปิดใหม่ปี 58 เพิ่มอีกด้วย" นายแสนผิน กล่าว
นอกจากนี้ ในปีนี้บริษัทตั้งงบซื้อที่ดิน 2.6 พันล้านบาท โดยใช้ไปแล้ว 2.1 พันล้านบาท เหลืออีก 500 ล้านบาท และยังคงมองหาซื้อที่ในกทม.เล็งย่านตะวันออก บางนา อ่อนนุช ศรีนครินทร์ วงเวียน และมองโซนเหนือ ย่านรามอินทราด้วย ส่วนตะวันตกมองว่า คู่แข่งหลายเจ้าแล้ว
สำหรับแนวโน้มราคาบ้านในช่วงครึ่งปีหลัง คาดว่าจะยังไม่มีการปรับ ส่วนปัญหาแรงงานต่างด้าว มีผลกระทบแค่ช่วงสั้น