"การซื้อโครงการ Equinox ในครั้งนี้จึงเป็นก้าวสำคัญของบริษัทฯ ที่จะตอกย้ำการเดินหน้ารุกธุรกิจอาคารสำนักงานให้เช่าอย่างเต็มตัวภายใต้การบริหารจัดการความเสี่ยงที่เหมาะสมด้วยแนวคิดตอบสนองความต้องการของลูกค้าคล้าย Warehouse Farm ซึ่งปัจจุบันได้รับความไว้วางใจจากบริษัทไทยและต่างประเทศในกลุ่มสื่อสารและพลังงานที่จะเข้ามาเป็นผู้เช่ารายใหญ่ จึงมั่นใจได้ว่าการเข้าซื้อโครงการดังกล่าวจะส่งผลดีต่อการเติบโตอย่างยั่งยืนของรายได้ค่าเช่า และเป็นการกระจายความเสี่ยงให้กับบริษัทฯ อีกทางหนึ่ง"
อนึ่ง โครงการ Equinox The Office Place เป็นอาคารสำนักงานให้เช่า 30 ชั้น ตั้งอยู่บนเนื้อที่ 3 ไร่ 1 งาน 45.5 ตารางวา มีพื้นที่ใช้สอยรวมประมาณ 45,000 ตารางเมตร และพื้นที่ให้เช่ารวมประมาณ 21,200 ตารางเมตร แบ่งเป็นพื้นที่ให้เช่าในส่วน office จำนวน 19,400 ตารางเมตร และพื้นที่ให้เช่า retail อีกจำนวน 1,800 ตารางเมตร คาดว่าจะสามารถปล่อยเช่าได้ประมาณ 600 บาทต่อตารางเมตรต่อเดือน ตั้งอยู่ในทำเลที่มีศักยภาพ การคมนาคมเข้าถึงได้สะดวก อยู่ติดกับห้าแยกลาดพร้าว ห่างจากสถานี BTS จตุจักรเพียง 800 เมตร หรือใช้เวลาเดินเพียง 10 นาทีจาก สถานี MRT พหลโยธิน รายล้อมไปด้วยแหล่งชุมชน คอนโด และห้างขนาดใหญ่ เช่น เซ็นทรัลลาดพร้าว ยูเนี่ยนมอลล์ จึงน่าจะสามารถตอบโจทย์คนทำงานได้เป็นอย่างดี
กลุ่มลูกค้าเป้าหมายหลักคือบริษัทในธุรกิจพลังงานและกลุ่มสื่อสาร ซึ่งเกือบทั้งหมดจะมีสำนักงานอยู่ในบริเวณนี้ และต้องการขยายพื้นที่เพิ่มเติมในทำเลที่ใกล้เคียงเดิมอีกมาก โดยที่ลักษณะเฉพาะของลูกค้ากลุ่มนี้มักจะรวมตัวอยู่ในย่านวิภาวดี (energy cluster) นอกจากนี้ บริษัทฯ มองว่าแนวโน้มธุรกิจอาคารสำนักงานให้เช่าในกรุงเทพยังน่าสนใจ โดยการเพิ่มขึ้นของราคาที่ดินในช่วงหลายปีที่ผ่านมาเป็นอุปสรรคสำคัญในการพัฒนาโครงการอาคารสำนักงานใหม่ๆ ในเขต CBD ซึ่งนับจากนี้ไปถึงสิ้นปี 2558 จะมีปริมาณพื้นที่ CBD Grade A Office ใหม่เพียง 88,000 ตารางเมตรเท่านั้น ในขณะที่ความต้องการเช่าอาคารสำนักงานยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น ผู้เช่าที่ต้องการพื้นที่อาคารสำนักงานระดับเกรดเอจึงมีแนวโน้มที่จะกระจายไปยังพื้นที่รอบนอกมากขึ้น โดยเฉพาะผู้เช่าขนาดใหญ่ที่ต้องการเช่าพื้นที่ในลักษณะหลายชั้นต่อกัน
บริษัทฯ มีแผนจัดตั้ง Office REIT ภายในไตรมาส 2 ปีหน้า เพื่อเป็นฐานค่าเช่าให้เติบโตต่อเนื่องในระยะยาว บริษัทตั้งเป้าจะให้กอง Office REIT นี้เป็นฐานระดมทุนเพื่อการเติบโตอย่างต่อเนื่องในธุรกิจอาคารสำนักงานให้เช่า นอกจากการเข้าลงทุนครั้งแรกในโครงการ Equinox แล้ว Office REIT ยังพิจารณาที่จะลงทุนเพิ่มในสินทรัพย์ใน pipeline อีกหลายแห่ง เช่น Office ประเภท Built to Suit ของ WHA เองรวมถึงพิจารณาการซื้อสินทรัพย์จากบุคคลอื่น เป็นต้น
นอกจากนี้ บริษัทอยู่ระหว่างการเตรียมตั้งกอง WHA-REIT เดิมที่คาดว่าจะจัดตั้งในไตรมาส 4 ของปีนี้ มุ่งเน้นการลงทุนในสินทรัพย์ประเภทคลังสินค้า ศูนย์กระจายสินค้า และโรงงานระดับพรีเมี่ยมเป็นหลัก ส่วนกอง Office REIT ใหม่จะมุ่งเน้นการลงทุนในสินทรัพย์ประเภทอาคารสำนักงาน
บริษัทยังอยู่ระหว่างการก่อสร้างอาคารสำนักงานประเภท Built to Suit ให้กับลูกค้ารายหนึ่ง บริเวณถนนบางนา-ตราด ก.ม. 7 พื้นที่รวมประมาณ 10,000 ตรม. และอยู่ระหว่างการออกแบบกับลูกค้าอีกรายหนึ่งเพื่อจะสร้างอาคารสำนักงานประเภท Built to Suit ในทำเลที่ตั้งเดียวกันอีกด้วย
นพ.สมยศ เปิดเผยว่า ปัจจุบันบริษัทฯได้บรรลุข้อตกลงในการซื้อสินทรัพย์ในประเทศอินโดนิเซีย ทั้งที่ดินและโรงงาน รวมทั้งคลังสินค้า โดยทางบริษัทมีแผนจะเข้าไปเป็นผู้ดำเนินการสร้างคลังสินค้าพื้นที่อีก 1.3 หมื่นตารางเมตร คาดว่าจะใช้ระยะเวลาในการก่อสร้างราว 1 ปี ซึ่งจะทำให้บริษัทมีพื้นที่ให้เช่าในนอินโดนีเซียทั้งหมด 3 หมื่นตารางเมตร โครงการนี้มีมูลค่าราว 400-500 ล้านบาท
"การเข้าไปในอินโดนิเซียครั้งนี้เพื่อที่จะเป็นจุดเริ่มต้นเพื่อศึกษาเทคโนโลยีการก่อสร้าง รวมถึงวัฒนธรรม และความต้องการ ซึ่งเรามองว่าประเทศนี้มีประชากรมาก และขนาดของประเทศก็ใหญ่ จึงมองอนาคตว่าคงจะมีการเติบโตอีกมากในประเทศนี้ โครงการแรกนี้เป็นโครงการที่เราไปซื้อมาจากเจ้าของเดิมทั้งหมด คือส่วนของโรงงานและที่ดินเปล่า และจะสร้างคลังสินค้าขึ้นใหม่เพื่อที่จะให้เจ้าของเดิมเช่ากลับทั้งหมดในระยะยาว"นพ.สมยศ กล่าว
ทั้งนี้ บริษัทคาดว่าผลการดำเนินงานในไตรมาส 4/57 จะเติบโตได้แบบก้าวกระโดด หลังจากการบรรทึกกำไรจากการขายสินทรัพย์เข้ากองทุน โดยการจะขายสินทรัพย์เข้ากองทุนมูลค่ากว่า 4 พันล้านบาท ซึ่งการขายสินทรัพย์เข้ากองทุนโดยปกติแล้วจะมีอัตรากำไรสุทธิประมาณ 25-30 % ในขณะที่การเข้าซื้ออาคารสำนักงาน Equinox The Office Place คาดว่าจะเริ่มบันทึกรายได้เข้ามาไตรมาส 4/57 ราว 10 ล้านบาท
ขณะที่รายได้ทั้งปี 57 บริษัทยังคงเป้าหมายไว้ที่ 5,500 ล้านบาท มาจากการขยายพื้นที่คลังสินค้าให้เช่าในปีนี้อีก 3 แสนตารางเมตรตามเป้าหมาย
ด้านนายอรรถวิทย์ เฉลิมทรัพยกร กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน WHA เปิดเผยว่า บริษัทมีแผนทยอยออกหุ้นกู้วงเงินที่เหลืออีก 2,200 ล้านบาทภายในปีนี้จนถึงเดือน เม.ย.58 โดยตามแผนคาดจะทยอยออกล็อตละ 500-1,000 ล้านบาท พิจารณาตามความจำเป็นและจังหวะของอัตราดอกเบี้ยในช่วงนั้นๆ เพื่อที่จะเป็นการรักษาระดับ D/E ไม่ให้เกิน 2 เท่า
"การที่เราออกหุ้นกู้กองไม่ใหญ่มากเพราะการออกกองเล็กๆนั้นมีอัตราดอกเบี้ยที่ค่อนข้างต่ำกว่า การออกกองขนาดใหญ่ๆ รวมถึงการออกกองทุนในแต่ละครั้งนั้นสามารถออกได้ง่ายกว่า"นายอรรถวิทย์ กล่าว