ทั้งนี้ ภาพรวมตลาดหุ้นไทยในไตรมาส 3/57 คาดว่าจะมีแรงขายทำกำไรออกมา ทำให้ดัชนีพักฐาน โดยคาดว่าตลาดฯ จะปรับตัวลดลงราว 70-100 จุด เนื่องจากมีการทำรัฐประหารเกิดขึ้นส่งผลให้ภาพรวมเศรษฐกิจไทยมีรูปแบบเปลี่ยนแปลงไป มีหลายกลุ่มธุรกิจที่ได้รับผลดีจากการที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)ออกมาเดินหน้านโยบายเศรษฐกิจต่างๆ ส่งผลให้ประชาชนมีความมั่นใจกับสถานการณ์ต่างๆ มากขึ้น
กลุ่มที่จะได้รับผลดี คือ กลุ่มธนาคาร เช่น KBANK, SCB, BBL และอสังหาริมทรัพย์ เช่น LPN, AP, SIRI กลุ่มนิคมอุตสาหกรรม เช่น HAMRAJ กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง และท่องเที่ยว รวมถึง กลุ่มพาณิชย์ที่ได้รับผลดีจากความเชื่อมั่นของประชาชนที่ปรับตัวดีขึ้น
ส่วนไตรมาส 4/57 มองว่าจะขึ้นไปอยู่ที่ระดับ 1,530 จุด และไตรมาส 1/58 จะขึ้นไปสูงสุดที่ระดับ 1,650 จุด เนื่องจากมองว่าผลประกอบการในช่วงไตรมาส 4/57-ไตรมาส 1/58 จะปรับตัวดีขึ้น หลัง คสช.เข้ามาแก้ไขสถานการณ์ของประเทศ เชื่อว่านักลงทุนจะเข้ามาเก็งกำไรผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนที่ปรับตัวดีขึ้น และเงินปันผล
"เรามองว่าในช่วงไตรมาส 3 คงจะเป็นช่วงที่นักลงทุนและกองทุนต่างๆมีการปรับฐานการลงทุน เนื่องจากภาพรวมของเศรษฐกิจมีการเปลี่ยนแผลงไปจากเดิม หลังจากที่ คสช.เข้ามาดำเนินนโยบายต่างๆต่อ และในไตรมาส 4 จะเป็นช่วงที่ดัชนีเริ่มปรับตัวขึ้น และจะขึ้นไปสูงมากในช่วงไตรมาส 1 เพราะมีแรงซื้อเก็งกำไรเรื่องผลประกอบการและเงินปันผลที่จะออกมา จากในช่วงที่ผ่านมาหุ้นหลายๆกลุ่มมีราคาที่ปรับลดลงไปค่อนข้างมากจากความกดดันทางการเมือง"นายชัยพร กล่าว