นายอารักษ์ ราษฏร์บริหาร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการ SLC กล่าวยอมรับว่าในปีนี้ยังขาดทุนมากกว่าปีก่อนที่มีผลขาดทุน 197 ล้านบาท เพราะมีการลงทุนและค่าใช้จ่ายของสถานีโทรทัศน์สปริงนิวส์ รวมทั้งค่าใบอนุญาต และค่าเชื่อมโครงข่าย (MUX) อย่างไรก็ดี แนวโน้มการดำเนินงานของสปริงนิวส์ดีขึ้นเป็นลำดับ คาดว่าสิ้นปีนี้จะมีกำไรก่อนหักภาษี ดอกเบี้ย ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย มาเป็นบวกประมาณ 40-50 ล้านบาท
ขณะที่คงเป้ารายได้ปีนี้ของ SLC อยุ่ที่ 450 ล้านบาท โดยสัดส่วนรายได้ 60% มาจากสปริงนิวส์ คาดว่าสปริงนิวส์จะเริ่มทำกำไรสุทธิในไตรมาส 4/58 จากเรทติ้งที่ดีขึ้นเท่าตัวในปีนี้ และบริษัทได้ปรับอัตราค่าโฆษณาหลังปรับผังรายการครั้งแรกเมื่อ 1 มิ.ย.ที่ผ่านมาหลังจากออกอากาศในระบบทีวีดิจิตอลเป็น 3 หมื่นบาท/นาที จากเดิม 3-4 พันบาท/นาทีในช่วงเผยแพร่ผ่านเคเบิลทีวี
ทั้งนี้ บริษัทจะมีการปรับผังรายการอีก 2 ครั้งคือ 1 ก.ค.และ 1 ต.ค.นี้ ก็จะมีการปรับอัตราค่าโฆษณาเพิ่มขึ้นตามไปด้วย โดยมีกำไรสุทธิเห็นชัดในปี 60-61 ประมาณ 400-500 ล้านบาท/ปี ซึ่งบริษัทคาดว่าสปริงนิวส์จะคืนทุนภายใน 5 ปี จากที่ลงทุนค่าใบอนุญาตไป 1.4 พันล้านบาท ค่าเชื่อมโครงข่ายปีละ 60 ล้านบาท รวมทั้งอุปกรณ์เครื่องมือและสตูดิโอใหม่
"ปีหน้าถือว่าเป็นปีทองของสปริงนิวส์ หลังปรับผังรายการในเดือนต.ค.จะชัดเจนขึ้น และเครื่องมือก็มีพร้อมมากขึ้น รวมทั้งเราจะทำให้คนดูสปริงนิวส์ดูได้ตลอดเวลาทั้งทีวี วิทยุ และได้ดีลติดจอ LCD ในรถแท็กซี่ และกำลังดีลติดจอในรถเมล์ เพื่อสร้างการรับรู้ของผู้ชมทั่วถึง เรายังมี sms website นอกเหนือจากในรถไฟฟ้าบีทีเอส และจอในลิฟต์ตามอาคารที่มีอยู่แล้ว ... ยอมรับว่าปีนี้เลวร้ายที่สุดแล้วจากเศรษฐกิจตกต่ำ"นายอารักษ์ กล่าว
นายอารักษ์ คาดว่า เม็ดเงินโฆษณาผ่านทีวีภายใน 5 ปีข้างหน้าจะเติบโตเท่าตัวเป็น 1.4 แสนล้านบาท จากปัจจุบัน 7 หมื่นล้านบาท และมองว่าจะมีผู้ประกอบการรายกลางและเล็กสามารถใช้โฆษณาผ่านทีวีได้มากขึ้น ซึ่งสปริงนิวส์เปรียบตัวเองเหมือนโลว์คอสต์แอร์ไลน์ที่สามารถให้ผู้ประกอบการ SME มาใช้โฆษณาผ่านทีวีได้จากเดิมมีแต่รายใหญ่ทำได้เท่านั้น
ทั้งนี้ สปริงนิวส์จะเป็นผู้ผลิตรายการเอง 85% ของผังรายการ อีก 15% จะเป็นลักษณะ Time Sharing ปัจจุบัน เป็นสถานีข่าวที่มีแรทติ้งอยู่ลำดับ 2 หรือ 3 ที่ใกล้เคียง ช่อง TNN24 ส่วนอันดับหนึ่งเป็น Nation TV
นายอารักษ์ กล่าวในช่วงครึ่งปีหลังไม่เกินเดือน ก.ย.57 นี้ บริษัทจะเรียกระดมทุนจากหุ้นเพิ่ทุนที่ยังเหลือ 1,380 ล้านหุ้นที่ขายให้แก่นักลทุนเฉพาะเจาะจง(PP)จากที่ขออนุมัติเพิ่มทุนไว้ทั้งหมด 2,500 ล้านหุ้น โดยรอบนี้คาดว่าจะระดมทุนได้ประมาณ 520 ล้านบาท คาดว่าจะขายให้นักลงทุนเฉพาะเจาะจงไม่เกิน 20 ราย ส่วนราคาขึ้นอยู่กับราคาตลาด เพื่อนำไปลงทุนอุปกรณ์ และสตูดิโอใหม่
สำหรับผลขาดทุนสะสมทีมีอยู่ 700 ล้านบาท นายอารักษ์กล่าวว่า มีแนวทางที่จะใช้วิธีลดทุนจดทะเบียนประมาณปี 60 นอกจากนี้อาจจะใช้กำไรจากการดำเนินงานมาลดผลขาดทุนสะสม
อนึ่ง SLC ถือหุ้น 100% ในบริท สปริงนิวส์ เทเลวิชั่น จำกัด และบมจ.ตงฮั่ว คอมมูนิเคชั่นส์ (TH) แสดงเจตจำนงค์เข้าลงทุนในสปริงนิวส์ โดยได้ชำระเงินค่าหุ้นล่วงหน้า 250 ล้านบาท หรือเท่ากับ 25% และไม่สามารถเพิ่มการลงทุนได้อีกตามหลักเกณฑ์ของคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.)
นายอารักษ์ กล่าวว่า ในช่วง 2 ปีนี้ TH รอดูผลประกอบการของสปริงส์นิวส์ก่อนตัดสินใจเข้าร่วมทุน และหากต้องการถอนเงินทุนบริษัทก็พร้อมจ่ายคืน พร้อมดอกเบี้ย 12%ต่อปี