(เพิ่มเติม) AIRA เคาะราคา IPO ที่ 0.75 บ./หุ้น เปิดจอง 26-27, 30 มิ.ย.เทรด 7 ก.ค.

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday June 25, 2014 16:35 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นางนลินี งามเศรษฐมาศ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ไอร่า แคปปิตอล (AIRA) เปิดเผยว่า บริษัทได้กำหนดราคาเสนอขายหุ้นสามัญต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) ที่ 0.75 บาท/หุ้น จำนวนเสนอขาย 634 ล้านหุ้น โดยจะเปิดจองซื้อในระหว่างวันที่ 26-27 มิ.ย. และ 30 มิ.ย. นี้ และคาดว่าจะสามารถเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ(mai) ในวันที่ 7 ก.ค.นี้ โดยใช้ชื่อย่อ"AIRA"

ทั้งนี้ บริษัทได้ลงนามสัญญาแต่งตั้ง บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย)ในฐาะนที่ปรึกษาทางการเงิน เป็นแกนนำการจัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่าย พร้อมผู้ร่วมจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายอีก 2 บริษัทคือ บล.บัวหลวง และ บล.ยูโอบี เคย์ เฮียน ซึ่ง AIRA จะเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุน IPO จำนวนประมาณ 634 ล้านหุ้น และเสนอขายแก่ผู้ถือหุ้นเดิมจำนวนประมาณ 125 ล้านหุ้น รวมเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนจำนวนประมาณ 759 ล้านหุ้น

สำหรับเงินที่ได้จากการระดมทุนในครั้งนี้ บริษัทจะนำไปใช้ในการขยายการลงทุนในอนาคต ในธุรกิจการเงินได้แก่ ขยายธุรกิจในบริษัทย่อย รวมถึงธุรกิจเช่า ธุรกิจเช่าซื้อ ธุรกิจสินเชื่อเพื่อการบริโภค ธุรกิจประกัน และชำระคืนตั๋วเงินให้แก่ผู้ถือหุ้นรายใหญ่

นางนลินี กล่าวเพิ่มเติมว่า บริษัทฯคาดว่าผลประกอบการในไตรมาส 2/57 จะเริ่มมีแนวโน้มดีขึ้น จากไตรมาสแรกที่ผ่านมามีผลขาดทุนอยู่ที่ 31.31 ล้านบาท หลังจากที่มีคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เข้ามาช่วยให้เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจ ส่งผลให้เริ่มเห็นปริมาณการซื้อขายหลักทรัพย์ (Volume)กลับเข้ามามากขึ้น จากช่วงไตรมาส 1/57 ลดลงไป 50% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีปริมาณการซื้อขายอยู่ที่ 60,000 ล้านบาทต่อวัน เนื่องด้วยตลาดหุ้นไทยได้รับผลกระทบจากสภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงจากสถานการณ์ความไม่แน่นอนทางการเมือง

ขณะที่มองผลประกอบการทั้งปี AIRA มั่นใจว่าจะสามารถพลิกกลับมามีกำไรได้ โดยคาดว่ามูลค่าการซื้อขายหลักทรัพย์ทั้งปีเฉลี่ยอยู่ที่ 4-5 หมื่นล้านบาท/วัน

สำหรับการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนแก่ประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO)ครั้งนี้ บริษัทฯมีความมั่นใจจะได้รับความสนใจจากนักลงทุนอย่างยิ่ง จากที่บริษัทฯมีผลประกอบการที่เติบโตมาอย่างต่อเนื่อง มีการบริหารงานของผู้บริหารที่มีความเชี่ยวชาญ และเป็นนักวิชาชีพ รวมถึงบริษัทฯยืนยันว่าจะดูแลผู้ถือหุ้นทุกรายทั้งรายเล็กและรายใหญ่ ขณะเดียวกันบริษัทฯมีเป้าหมายในการที่จะเป็นบริษัทลงทุน (Holding Company) เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ผู้ลงทุน

บริษัทมีนโยบายในการขยายการลงทุนไปยังธุรกิจทางด้านการเงินอื่นๆ เช่น ธุรกิจลิสซิ่ง เพื่อสามารถรองรับการให้บริการทางการเงินอย่างครบวงจร โดยมีกลุ่มเป้าหมายการลงทุนเป็นกลุ่มสถาบันการเงินในสัดส่วน 75% และกลุ่มที่ไม่ใช่สถาบันการเงิน 25% ของมูลค่าการลงทุนทั้งหมด เพื่อรองรับการขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศไทยและภูมิภาคเอเชีย และเตรียมพร้อมในการขยายตัวเพื่อรองรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ในปี 58 ซึ่งกิจการที่จะลงทุนต้องให้ผลตอบแทนที่ดี และสามารถสนับสนุนธุรกิจกลุ่มให้ขยายตัวในอนาคต เพื่อสร้างความเติบโตอย่างยั่งยื่นแก่บริษัทฯและสร้างผลตอบแทนที่มั้นคงแก่ผู้ถือหุ้นในระยะยาว

ส่วนการขยายการลงทุนที่ไม่ใช่สถาบันทางการเงินนั้น ปีนี้บริษัทฯมีการเจรจาซื้อกิจการร่วมทุน (M&A) ในธุรกิจประเภทอาหาร และพลังงาน โดยคาดว่าปีนี้จะเห็นได้อย่างน้อย 1 ธุรกิจ

"จุดแข็งของเรา คือเรามีการเติบโตที่ดีอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด ยกเว้นในไตรมาส 1 ที่ผ่านมาที่ได้รับผลกระทบจากการเมือง ซึ่งก็คงเหมือนกับหลายๆบริษัท แต่เชื่อมั่นว่าไตรมาส 2 นี้เราจะมีแนวโน้มผลประกอบการที่ดีขึ้น จากที่ปัจจัยต่างๆเริ่มฟื้นตัว วอลุ่มตลาดเริ่มกลับเข้ามามากขึ้น ขณะที่การขยายธุรกิจก็ยังเป็นปัจจัยสำคัญ ซึ่งบริษัทมีการกระจายธุรกิจไปในหลายลักษณะ โดยมีการจัดสัดส่วนการลงทุนในธุรกิจอื่นๆที่ไม่ใช่สถาบันทางการเงินในสัดส่วน 25% ของพอร์ตรวมทั้งหมด เพื่อกระจายความเสี่ยงและสร้างความแข็งแกร่งให้กับบริษัทฯได้ในอนาคต ปีนี้เราตั้งเป้ามาร์เก็ตแชร์ให้ใกล้เคียงกับปีก่อน 1.5-2% จากปัจจุบันอยู่ที่ 1%"นางนลินี กล่าว

ด้านราคา IPO เทียบกับมูลค่าทางบัญชีของบริษัท(P/VB) อยู่ที่ 2.36 เท่า โดยราคาดังกล่าวมีส่วนลด 19% เมื่อเทียบกับตลาดหลักทรัพย์ mai ที่อยู่ที่ 2.92 เท่า และเมื่อเทียบกับหุ้นในกลุ่มบริษัทหลักทรัพย์ที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์จะมี P/VB เฉลี่ยอยู่ที่ 1.1 เท่า

นายยุทธ วรฉัตรธาร ประธานกรรมการ บล.เมย์แบงก์กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวว่า การกำหนดราคาหุ้น IPO ของ AIRA ที่ 0.75 บาท/หุ้น ถือเป็นระดับราคาที่เหมาะสมกับปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง และมีความน่าสนใจ เนื่องด้วย AIRA เป็นบริษัทที่มีพื้นฐานดี มีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง จึงมั่นใจว่า จะได้รับความสนใจจากนักลงทุนอย่างดี และคาดว่าจะสร้างผลตอบแทนที่น่าพอใจ

"มั่นใจว่าหุ้น IPO ของ AIRA จะได้รับความสนใจจากนักลงทุนอย่างแน่นอน เนื่องจากปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่งของบริษัท ทีมผู้บริหารที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในธุรกิจ นอกจากนั้นเม็ดเงินที่ได้จากการระดมทุนที่จะนำมาใช้ในการขยายการลงทุนจะทำให้บริษัทฯ มีการเติบโตในอนาคต ซึ่งถือว่าคุ้มค่าสำหรับถือลงทุนเพื่อหวังผลในระยะยาว"นายยุทธ กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ