นอกจากนี้ ยังเตรียมเพิ่มอัตราการใช้กำลังการผลิตอีก 30% หลัง Warehouse แล้วเสร็จ ซึ่งจะช่วยผลักดันยอดขายในช่วงไตรมาส 4 /57 และที่สำคัญการเพิ่มอัตราการใช้กำลังการผลิตจะช่วยลดต้นทุนต่อหน่วย ซึ่งจะช่วยเพิ่มมาร์จินให้กับบริษัทเป็นจำนวนมาก
"เราเตรียมเพิ่มจำนวนมาร์เก็ตติ้ง เพื่อทำตลาดเทรดดิ้งอย่างเต็มที่ในปีหน้า เพราะเรามีคลังสินค้า พร้อมรองรับออเดอร์ลูกค้า ซึ่งทำให้มั่นใจว่าแนวโน้มรายได้จะเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยคาดว่ารายได้จะโตไม่ต่ำกว่า 15% เมื่อเทียบกับปีนี้ ที่คาดว่ารายได้รวมจะอยู่ที่ 1,900 ล้านบาท"นายสมพลกล่าว
สำหรับแผนการดำเนินงานในปี 2557 บริษัทจะมุ่งเน้นขยายตลาดต่างประเทศมากขึ้น โดยเฉพาะที่สหรัฐอเมริกา เนื่องจากเป็นตลาดที่มีศักยภาพและกำไรขั้นต้นสูง ซึ่งจะช่วยเพิ่มผลกำไรบริษัทมากขึ้น โดยขณะนี้เริ่มมีออเดอร์ เข้ามาบ้างแล้วจากบรรดาบริษัทชั้นนำ โดยก่อนหน้านี้ FPI ได้ลงทุนแม่พิมพ์ชิ้นส่วนรถยนต์จากค่ายญี่ปุ่น และเกาหลี ซึ่งเป็นฐานลูกค้าหลัก ทั้งนี้ หากมีออเดอร์ใหม่เข้ามาจากสหรัฐอเมริกา จะต้องมีการลงทุนเพิ่มในส่วนของแม่พิมพ์ โดยใช้เงินส่วนหนึ่งจากการออกหุ้นกู้แปลงสภาพจำนวน 250 ล้านบาท ซึ่งในช่วงแรกจะดำเนินการในลักษณะค่อยเป็นค่อยไป เนื่องจากเป็นตลาดใหม่ที่ต้องใช้เงินลงทุนสูง
ปัจจุบันบริษัทมีออเดอร์ในมือในส่วนของการรับจ้างผลิตให้กับลูกค้า (OEM) ประมาณ 300 ล้านบาท ส่วนการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ อะไหล่ทดแทน (REM) มีประประมาณ 150 ล้านบาทต่อเดือน โดยในปีนี้บริษัทสามารถเพิ่มลูกค้าใหม่ได้อีก 3 ประเทศ ทำให้จำนวนลูกค้าเพิ่มเป็น 122 ประเทศ
"คาดว่าผลการดำเนินงานในปี 2557 กำไรสุทธิจะปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากได้รับปัจจัยหนุนจากค่าเงินบาทที่อ่อนค่า จึงทำให้ Net Profit Margin ออกมาดี อีกทั้ง บริษัทยังได้วางแผนขยายตลาดสู่กลุ่มประเทศอาเซียน เพื่อรองรับการเปิดเสรีประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) หลังจากก่อนหน้านี้ได้ลงทุนสำนักงานใหม่ เพื่อรองรับบุคลากรใหม่ๆในการขยายตลาด รวมทั้งจะมุ่งเน้นทำธุรกิจซื้อมาขายไป (Trading) อื่นๆ เช่น ชิ้นส่วนเครื่องยนต์ (Engine Part) โดยจะมีการหาพันธมิตรใหม่ๆ ที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน เพื่อเพิ่มยอดขาย ซึ่งจะทำให้รายได้และกำไรของบริษัทขยายตัวต่อไปในอนาคต" นายสมพล กล่าว