ทว่าจุดแข็งดังกล่าวถูกลดทอนบางส่วนจากธรรมชาติที่ผันผวนของธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง ตลอดจนความเสี่ยงจากงานก่อสร้างที่ไม่มีความหลากหลาย ประวัติผลการดำเนินงานที่ค่อนข้างสั้นในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และภาระหนี้ที่มีโอกาสเพิ่มสูงขึ้น
ในขณะที่แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable" หรือ “คงที่" สะท้อนถึงความคาดหวังว่าบริษัทจะรักษาความสามารถในการแข่งขันในธุรกิจหลักได้อย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่าภาระหนี้จะสูงขึ้นแต่ก็น่าจะควบคุมได้แม้ว่าบริษัทจะมีแผนพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมมากขึ้นในระยะ 3 ปีข้างหน้าก็ตาม ในขณะที่อัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนคาดว่าจะไม่สูงกว่า 50% หรือหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยต่อส่วนทุนจะไม่สูงกว่า 1 เท่า
บริษัท พรีบิลท์ ก่อตั้งในปี 2538 และจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในปี 2548 ณ เดือนพฤษภาคม 2557 กลุ่มตระกูลเจริญตาเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัทในสัดส่วน 26% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด บริษัทดำเนินกิจการรับเหมาก่อสร้างทั่วไปโดยเน้นงานก่อสร้างอาคารสูง รายได้ของบริษัทโดยเฉลี่ยระหว่างปี 2551-2555 อยู่ที่ 2,585 ล้านบาท โดยในปี 2556 บริษัทมีรายได้รวมเพิ่มขึ้นเป็น 6,007 ล้านบาท ทั้งนี้ รายได้จากธุรกิจรับเหมาก่อสร้างคิดเป็น 80%-90% ของรายได้รวมในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา รายได้จากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และการขายวัสดุก่อสร้างยังคงมีสัดส่วนค่อนข้างต่ำแต่ก็ค่อย ๆ เพิ่มขึ้นเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา ตั้งแต่ปี 2553 บริษัทรับรู้รายได้จากคอนโดมิเนียมทั้งหมด 4 โครงการ
สถานะทางธุรกิจในระดับปานกลางสะท้อนถึงผลงานก่อสร้างโครงการอาคารสูงเพื่อพักอาศัยและเพื่อการพาณิชย์ที่เป็นที่ยอมรับ โดยลูกค้าส่วนใหญ่ของบริษัทเป็นผู้ประกอบการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยซึ่งมีความน่าเชื่อถือในระดับที่ยอมรับได้ ตั้งแต่ปี 2554 จนถึงไตรมาสแรกของปี 2557 บริษัทมี บมจ. ควอลิตี้เฮ้า (QH) เป็นลูกค้ารายใหญ่ที่สุดซึ่งสร้างรายได้ให้แก่บริษัทคิดเป็นสัดส่วน 20%-30% ของรายได้รวมต่อปี ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2557 บริษัทมียอดรอรับรู้รายได้จำนวน 17,700 ล้านบาท ซึ่งคิดเป็นประมาณ 3 เท่าของรายได้จากธุรกิจรับเหมาก่อสร้างที่บริษัททำได้ในปี 2556
สถานะทางการเงินของบริษัทอยู่ในระดับที่ยอมรับได้ อัตรากำไรขั้นต้นของบริษัทในช่วง 3 ปีที่ผ่านมาอยู่ที่ประมาณ 12% อัตรากำไรขั้นต้นของบริษัทที่ดีขึ้นส่วนหนึ่งเนื่องจากได้รับแรงหนุนจากอัตรากำไรขั้นต้นในระดับสูงของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ อัตรากำไรขั้นต้นของธุรกิจรับเหมาก่อสร้างอยู่ที่ 7% ในขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์โดยเฉลี่ยอยู่ที่ 44% อัตรากำไรจากการดำเนินงานก่อนค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายต่อรายได้ อยู่ในช่วง 5%-7% อัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 27.26% ระหว่างปี 2553-2554 แต่ลดลงไปอยู่ที่ประมาณ 9% ตั้งแต่ปี 2555 ภาระหนี้ที่ลดลงเกิดจากการที่บริษัทมีการรับรู้รายได้จากการโอนโครงการคอนโดมิเนียมที่แล้วเสร็จส่วนใหญ่แก่ลูกค้า
ในระหว่างปี 2557-2559 ทริสเรทติ้ง คาดว่ารายได้จากธุรกิจรับเหมาก่อสร้างของบริษัทพรีบิลท์จะอยู่ที่ 5,000-6,000 ล้านบาทต่อปี สัดส่วนรายได้จากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นในปี 2558-2559 เนื่องจากการรับรู้รายได้จากโครงการ “แกรนด์ สาทร-วุฒากาศ" ทริสเรทติ้งคาดว่าอัตรากำไรจากการดำเนินงานของบริษัทจะอยู่ที่ประมาณ 4% ในช่วง 3 ปีข้างหน้า เงินทุนจากการดำเนินงานคาดว่าจะอยู่ในช่วง 140-300 ล้านบาทต่อปี ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2557 อัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 10.88% การขยายไปยังธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์คาดว่าจะทำให้ภาระหนี้ของบริษัทเพิ่มขึ้น
อย่างไรก็ตาม คาดว่าอัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนของบริษัทจะอยู่ต่ำกว่า 50% ในระยะ 3 ปีข้างหน้า ทั้งนี้ คาดว่าอัตราส่วนเงินทุนจากการดำเนินงานต่อเงินกู้รวมและอัตราส่วนกำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายต่อดอกเบี้ยจ่ายจะลดลงเนื่องจากภาระหนี้ที่เพิ่มขึ้น ในระหว่างปี 2557-2559 คาดว่าอัตราส่วนเงินทุนจากการดำเนินงานต่อเงินกู้รวมจะอยู่สูงกว่า 20% ในขณะที่อัตราส่วนกำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายต่อดอกเบี้ยจ่ายคาดว่าจะสูงกว่า 4 เท่า