ตลาด mai จัด InnoBiz Matching Day สานโอกาส SMEs พบแหล่งทุน

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday July 1, 2014 15:21 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายประพันธ์ เจริญประวัติ ผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) เปิดเผยว่า กิจกรรม "InnoBiz Matching Day" จัดขึ้นต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 8 จากความร่วมมือระหว่างตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ตลาดหลักทรัพย์ mai สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.) สมาคมไทยผู้ประกอบธุรกิจเงินร่วมลงทุน และสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ โดยการจัดงานในปีนี้เป็นส่วนหนึ่งของงานครบรอบ 15 ปีการดำเนินงานของตลาดหลักทรัพย์ mai เมื่อ 1 ก.ค.57

ปัจจุบันภาคธุรกิจ SMEs ทั่วประเทศมีจำนวนมากที่มีแผนธุรกิจดีๆ ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจที่มีศักยภาพในการเติบโต (Growth Enterprises) หรือ ธุรกิจเพื่อสังคม (Social Enterprises) ที่มุ่งเน้นการดูแลสังคมและยังสามารถทำกำไรเลี้ยงตนเองได้ อย่างไรก็ตาม SMEs เหล่านี้ยังมีข้อจำกัดในการเข้าถึงแหล่งทุน ดังนั้น ธุรกิจเงินร่วมลงทุน (Venture Capital) จะสามารถเข้ามาเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับ SMEs โดยเป็นแหล่งเงินทุนเพื่อการขยายธุรกิจ ให้คำปรึกษาด้านการบริหารจัดการ การจัดโครงสร้าง และคำปรึกษาด้านธุรกิจ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันและส่งเสริมการเติบโตของ SMEs ไทย ซึ่งเมื่อธุรกิจขยายตัวยังเป็นโอกาสที่จะก้าวสู่ตลาดทุนในอนาคตอีกด้วย นอกจากการนำเสนอแผนธุรกิจแล้ว ผู้ประกอบการยังได้พบกับผู้บริหารของบริษัทจดทะเบียนใน ตลท.และmai เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลและมุมมองที่เป็นประโยชน์ ต่อยอดโอกาสในการทำธุรกิจร่วมกันในอนาคต ตามแนวคิดการจัดงานในปีนี้ว่า “เถ้าแก่สร้างเถ้าแก่" อีกด้วย

ตลาดหลักทรัพย์ mai เดินหน้าผลักดันกิจกรรม “Innobiz Matching Day" โดยขยายแหล่งเงินทุนให้เพิ่มมากขึ้น ครอบคลุมกลุ่ม Angel หรือบุคคลที่มีความสนใจร่วมลงทุนกับธุรกิจที่มีศักยภาพ รวมถึงผู้ลงทุนสถาบัน และบริษัทจดทะเบียนที่สนใจลงทุน ควบคู่ไปกับการพัฒนาศักยภาพและเตรียมความพร้อมผู้ประกอบการ SMEs อย่างต่อเนื่อง" นายประพันธ์กล่าวเพิ่มเติม

“InnoBiz Matching Day 2014" เปิดรับสมัครผู้ประกอบการตั้งแต่เดือน เม.ย.57 โดยได้เชิญผู้ทรงคุณวุฒิมาให้คำปรึกษาแก่ผู้ประกอบการในเรื่องการต่อยอดและเพิ่มมูลค่าให้กับธุรกิจ และมีการคัดเลือกผู้ประกอบการ 6 รายที่มีความพร้อมและมีความน่าสนใจลงทุนเพื่อมานำเสนอแผนธุรกิจแก่นักลงทุน ประกอบด้วยธุรกิจเพื่อสังคม (Social Enterprises) 2 ราย ธุรกิจเทคโนโลยีสารสนเทศ 2 ราย ธุรกิจนวัตกรรมเพื่อสุขภาพ 1 ราย และธุรกิจเพื่อการเกษตรอีก 1 ราย คิดเป็นมูลค่าเงินลงทุนกว่า 250 ล้านบาท


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ