โครงการไอคอนสยาม ประกอบด้วย ศูนย์การค้า 2 อาคาร พื้นที่ 525,000 ตร.ม.และศูนย์การประชุมระดับโลกขนาด 3,500 ที่นั่ง ใช้เงินลงทุนประมาณ 2.8 หมื่นล้านบาท , คอนโดมิเนียมริมน้ำ 2 อาคาร เป็นอาคาร 70 ชั้น และ 40 ชั้น ลงทุน 1.2 หมื่นล้านบาท รวมทั้ง 7 สิ่งมหัศจรรย์ระดับโลก ที่ใช้เงินลงทุน 1 หมื่นล้านบาท เบื้องต้น ได้แก่ พิพิธภัณฑ์ศูนย์รวมของมรดกทางประวัติศาสตร์และสุดยอดภูมิปัญญาไทย การแสดงสายน้ำผสมผสานมัลติมีเดียแสงสีเสียงและไฟที่ยาวที่สุดในเอเขียตะวันออกเฉียงใต้ที่มีความยาวมากกว่า 400 เมตร ทั้งนี้ กำหนดแล้วเสร็จในปี 2560
นางชฎาทิพ จูตระกูล กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด เปิดเผยว่า แหล่งเงินลงทุน 5 หมื่นล้านบาทมาจากส่วนทุน 2.5 หมื่นล้านบาท หรือครึ่งหนี่งเงินลงทุน โดยการร่วมลงทุนโครงการไอคอนสยาม เป็นการร่วมมือพันธมิตรทั้ง 3 โดยสยามพิวรรธน์ร่วมทุน 50% ส่วนแมกโนเลียฯ ลงทุน 25% และเครือเจริญโภคภัณฑ์ ลงทุน 25% ส่วนอีกครึ่งหนึ่ง หรือจำนวน 2.5 หมื่นล้านบาทมาจากเงินกู้ จากธนาคารกสิกรไทย และธนาคารธนชาต คาดว่าจะใช้เวลาคืนทุนมากกว่า 10 ปี
ทั้งนี้ งบลงทุนโครงการนี้ปรับขึ้นจากเดิม 3.5 หมื่นล้านบาทเป็น 5 หมื่นล้านบาท เพราะเพิ่มพื้นที่เป็น 50 ไร่ จาก 40 ไร่ หลังผลสำรวจจากลูกค้าและผู้ประกอบการให้ความสนใจและตอบรับโครงการเป็นอย่างดี โดยผู้ประกอบการจากจีน ญี่ปุ่น ฝรั่งเศส และอิตาลี แสดงความสนใจเข้ามาเปิดร้านค้าในโครงการ ซึ่งในเดือน ต.ค.จะเปิดให้จองพื้นที่ในศูนย์การค้า ส่วนคอนโดมิเนียมจะเปิดให้จองในเดือน ก.ค.นี้
"ไอคอนสยามเดิมจะมีพื้นที่ 40 ไร่ แต่เพิ่มเป็น 50 ไร่ จากวันนี้จนถึงวันเปิดโครงการ เราจะเพิ่มที่ดินอีกไปเรื่อยๆ การขยายเงินลงทุนเพราะเราได้ทำการสำรวจวิจัยตลาดและพันธมิตรแล้ว เรามีความเชื่อมั่นและศักยภาพพื้นที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา เป็นแรงบัดกาลใจเพิ่ม size โครงการ ส่วน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของไอคอนสยามจะเป็นแม่เหล็กดึงดูดคนทั้งโลกให้มาเยี่ยมชม"นางชฎาทิพ กล่าว
นอกจากนี้ พื้นที่โดยรอบยังมีผู้ประกอบการรายอื่น ๆ อีก 30 โครงการใหม่ที่เริ่มดำเนินการระหว่างปี 55-63 มูลค่าโครงการรวมกันถึง 1.12 แสนล้านบาท รวมทั้งโครงการด้านโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐที่มีงบลงทุนราว 3 หมื่นล้านบาทด้วย อาทิ งานปรับปรุงท่าเตียนของสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ เป็นต้น ทั้งหมดเป็นการผนึกกำลังพัฒนาพื้นที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาตลอดระยะทางยาว 10 กม.ให้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่น่าตื่นตาตื่นใจ ตอกย้ำให้แม่น้ำเจ้าพระยาและกรุงเทพฯเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวที่สำคัญของโลก (Global Destination)
นางชฏาทิพ คาดว่าเมื่อเปิดโครงการไอคอนสยามจะมีผู้เข้าเยี่ยมชมประมาณ 2-3 แสนคน/วัน โดยในจำนวนนี้เป็นนักท่องเที่ยวสัดส่วน 35% ขณะที่ลูกค้าที่อยู่รอบๆไอคอนสยามก็เป็นลูกค้าที่มีกำลังซื้อสูง เนื่องจากโครงการตั้งอยู่ใจกลางของพื้นที่ที่ครอบคลุมกลุ่มลูกค้าเป้าหมายทั้งชาวไทยและต่างชาติ ท่ามกลางโครงการที่พักอาศัยระดับบนราว 200 โครงการ ประชากรในพื้นที่รวมมากกว่า 3 ล้านคน และมีโรงแรมที่เป็นที่รู้จักระดับโลกตั้งอยู่ในรัศมี 5 กม.ถึง 50 แห่ง รวมห้องพักกว่า 10,000 ห้อง
อีกทั้งอยู่ใกล้กับศูนย์กลางธุรกิจย่านสีลมและสาทรเพียง 5 นาทีรวมถึงย่านการค้าอีกมากมายริมฝั่งแม่น้ำ และเป็นจุดเชื่อมต่อการเดินทางสะดวกที่สุดโดยสามารถมาไอคอนสยามได้ทั้งรถไฟฟ้า รถยนต์ หรือทางเรือ และในอีก 3-5 ปีข้างหน้าจะมีโครงกรขนส่งมวลชนขนาดใหญ่สร้างเสร็จเพิ่มเติมในบริเวณพื้นที่ใกล้เคียงด้วย ได้แก่ โครงการสร้างสะพานข้ามแม่น้ำ 3 โครงการ โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว และโครงการรถไฟฟ้าสายสีแดง
ไอคอนสยามยังสร้างท่าเรือสาธารณะ 2 ท่า ท่าเรือส่วนบุคคล 1 ท่าในพื้นที่โครงการเพื่อเชื่อมต่อกับอีก 73 ท่าเรือในรัศมี 10 กม. บนแม่น้ำเจ้าพระยา หรือตั้งแต่เอเชียทีคไปจนถึงพระบรมมหาราชวัง ไอคอนสยามมีเรือ Ferry Boat รับส่ง 6 ลำ และบริการรถ shuttle bus รับส่งระหว่างโครงการกับสถานีรถไฟฟ้าธนบุรีอีกด้วย
นางชฎาทิพ กล่าวว่า สำนักผังเมือง กรุงเทพมหานครมีแนวคิดที่จะสร้างทางเดินเลียบแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งไอคอนสยามจะเข้าไปมีส่วนร่วม และเป็นส่วนสำคัญส่วนหนึ่งของวิสัยทัศน์นี้โดยการสร้าง The River Park ให้เป็น Community Space ที่ใหญ่ที่สุดริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาภายในโครงการ เนื้อที่กว่า 10,000 ตร.ม.ที่จะเป็นลานคนเมืองรองรับการจัดงานระดับชาติและการแสดงโชว์ระดับโลก พร้อมเชื่อมต่อกับทางเดินเลียบฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา
"ในยามเศรษฐกิจตกต่ำ สยามพิวรรธน์จะลงทุน เราเป็นคนที่จุดประกาย เพราะเรามั่นใจประเทศไทย ยังไงประเทศก็ยังอยู่ ...ต่างชาติเขายังมีความมั่นใจในไทย แล้วคนไทยก็ต้องมีความมั่นใจในประเทศ ทุกครั้งที่มีเรื่อง 3-5 เดือนก็ดีขึ้น เพราะประเทศนี้มีดี และครั้งนี้ก็ขอนำร่องอีกรอบ"นางชฎาทิพ กล่าว
โครงการไอคอนสยาม จะเปิดตัวในปีพ.ศ.2560 เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองในโอกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมีพระชมม์มายุ 90 พรรษา และทรงครองราชย์ครบรอบ 70 ปี