นอกจากนี้ ราคาน้ำมันดิบเบรนท์(Brent)และดูไบในปัจจุบันถือว่ายืนอยู่ในระดับที่สูงจะช่วยหนุนผลประกอบการ โดยคาดการณ์ค่าเฉลี่ยน้ำมันดิบ Brent ปีนี้(2557)ไว้ที่ 107 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนค่าเฉลี่ยน้ำมันดิบดูไบปีนี้(2557)คาดว่าจะอยู่แถว 105 ดอลลาร์/บาร์เรล และโอกาสที่ราคาน้ำมันจะอ่อนตัวลงคงจะไม่ง่าย อีกทั้ง PTTEP ก็ยังมีกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้นในปีนี้ด้วย
ส่วนการปรับโครงสร้างพลังงานที่กำลังจะเกิดขึ้นนี้ มองว่า PTTEP แทบจะไม่ได้รับผลกระทบเลย อีกทั้ง PTTEP ในช่วงที่ผ่านมาได้มีการปรับปรุง Project ต่าง ๆ ที่เป็นตัวฉุดแล้ว จึงลดความเสี่ยงลงไป อย่างเช่นเรื่องของ Oil Sands ตอนนี้ก็ได้แก้ปัญหาแล้วด้วยการทำสัญญา Swap สินทรัพย์กับ Statoil
ดังนั้นภาพของการดำเนินงานของ PTTEP ปีนี้จะดีขึ้นกว่าปีที่แล้ว(2556)โดยคาดการณ์กำไรสุทธิปีนี้(2557)ไว้ในช่วง 63,000-69,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว(2556)ที่มีกำไรสุทธิ 56,155 ล้านบาท ซึ่งมาจากราคาน้ำมันที่แพงขึ้น อันเป็นผลจากเหตุการณ์ความไม่สงบในอิรัก และกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้น
โบรกเกอร์ คำแนะนำ ราคาเป้าหมาย(บาท/หุ้น) บล.ไทยพาณิชย์ ซื้อ 210.00 บล.เคทีบี(ประเทศไทย) ซื้อ 204.00 บล.ธนชาต ซื้อ 200.00 บล.คันทรี่ กรุ๊ป ซื้อ 197.30 บล.ทิสโก้ ซื้อ 182.00 บล.ไอร่า ซื้อลงทุน 200.00 บล.เคเคเทรด ซื้อ 194.00 บล.ซีไอเอ็มบี(ประเทศไทย) ซื้อ 183.00
นายชัยพัชร ธนวัฒโน ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ไทยพาณิชย์ ให้เหตุผลแนะนำ"ซื้อ"หุ้น PTTEP เนื่องจากยังมี valuation ที่ถูกอยู่ ปัจจุบันเทรดที่ P/E 9 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอดีต 10 ปีที่ 12 เท่า และราคาก็ยังอยู่ในระดับที่ต่ำกว่าราคาเป้าหมาย 210 บาท/หุ้นด้วย
นอกจากนี้ ราคาน้ำมันดิบเบรนท์(Brent)ปัจจุบันถือว่ายืนอยู่ในระดับสูง นับจากต้นปีมาจนถึงปัจจุบันเฉลี่ยอยู่ที่ 108.8 ดอลลาร์/บาร์เรล เท่ากับค่าเฉลี่ยราคาน้ำมันดิบของปีที่แล้วที่ 108.8 ดอลลาร์/บาร์เรล แต่ทางเราได้คาดการณ์ค่าเฉลี่ยน้ำมันดิบปี 57 ทั้งปีไว้ที่ 107 ดอลลาร์/บาร์เรล
สำหรับการปรับโครงสร้างพลังงานที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในเร็วๆ นี้ PTTEP แทบจะไม่ได้รับผลกระทบเลย พร้อมคาดการณ์กำไรสุทธิปี 57 ที่ 66,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 56,000 ล้านบาท
ด้านนายสุวัฒน์ สินสาฎก ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ซีไอเอ็มบี(ประเทศไทย)กล่าว่า ปีนี้กำไรของ PTTEP จะดีขึ้น โดยคาดว่าจะมีกำไรสุทธิ 69,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วที่มีกำไรสุทธิ 56,000 ล้านบาท จากราคาน้ำมันแพงขึ้น เป็นผลจากเหตุการณ์ความไม่สงบในอิรัก
ปีนี้คาดว่าค่าเฉลี่ยราคาน้ำมันดูไบจะยืนเหนือระดับ 105 ดอลลาร์/บาร์เรล และโอกาสที่จะอ่อนตัวลงคงไม่ง่าย ขณะที่ปีที่แล้วราคาน้ำมันดิบดูไบเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 104 ดอลลาร์/บาร์เรล อีกทั้ง PTTEP ก็ยังมีกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้นในปีนี้ด้วย
นอกจากนี้ การที่ราคาหุ้น PTTEP ขยับตัวขึ้นมาส่วนหนึ่งยังเป็นผลจากการคาดการณ์ว่าจะไม่ได้รับผลกระทบจากการปรับโครงสร้างพลังงานของไทยด้วย
อีกทั้ง PTTEP ในช่วงที่ผ่านมาได้มีการปรับปรุง Project ต่าง ๆ ที่เป็นตัวฉุด เพื่อลดความเสี่ยง อย่างเช่นเรื่องของ Oil Sands ตอนนี้ก็ได้แก้ปัญหาแล้วด้วยการทำสัญญา Swap สินทรัพย์กับ Statoil
ส่วนนายปริญทร์ กิจจาทรพิทักษ์ ผู้บริหารสายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์และกลยุทธ์การลงทุน บล.เคทีบี(ประเทศไทย) กล่าวว่า ภาพของการดำเนินงานของ PTTEP ปีนี้จะดีขึ้นกว่าปีที่แล้วในแง่ของกำไรสุทธิ ซึ่งมาจากธุรกิจหลักทั้งปริมาณขายก๊าซธรรมชาติและน้ำมันยังเป็นบวกอยู่ โดยเฉพาะแหล่งผลิตใหม่ที่สำคัญได้เริ่มมีกำลังผลิตเข้ามาแล้วในไตรมาส 3/57 อย่างแหล่งซอติก้า จะทำให้ยอดขายเพิ่มขึ้นด้วย
นอกจากนี้ ราคาน้ำมันดิบทรงตัวในระดับสูง เป็นผลจากเหตุการณ์ความไม่สงบในอิรัก ซึ่งปีนี้คาดว่าราคาน้ำมันดิบดูไบจะมีค่าเฉลี่ย 105 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งสูงกว่าปีก่อนที่มีค่าเฉลี่ย 98-99 ดอลลาร์/บาร์เรล
พร้อมคาดการณ์กำไรสุทธิปีนี้ไว้ที่ 63,000 ล้านบาท คิดในแบบ Conservative เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วที่มีกำไรสุทธิ 56,155 ล้านบาท เป็นการผลจากราคาน้ำมันดิบและกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้น