"เราไม่กระทบเพราะเรารู้แล้วว่าต้องมีการจัดระเบียบสังคม แต่ถามว่าการทบทวบโครงการจะยกเลิกไปเลยหรือไม่ ก็ไม่ใช่ ก็คิดว่าก็คงต้องใช้เวลาในการตรวจสอบในโครงการภาครัฐ ซึ่งเรากำลังบอกว่าเราเป็นผู้ผลิตและส่งออก ขณะเดียวกันเราก็มีการรับงานภาคเอกชนด้วย เพราะว่าตอนนี้ถ้าติดตั้งหลังคาขนาด 1,000 กิโลวัตต์ลงไปไม่ต้องถูกรายงานตัวเป็นใบรง. 4 ฉะนั้นงานภาคเอกชนก็ยังมีอีกมาก และงานภาครัฐถ้าหากยังจัดระเบียบสังคมไม่เสร็จ เราก็ไม่ได้กระทบแต่อย่างใด ขณะที่เห็นว่าการเข้ามาจัดระเบียบสังคมของ คสช.จะช่วยส่งผลดีต่อตัวบริษัท เนื่องจากนโยบายของคสช.เน้นส่งเสริมอุตสาหกรรมที่ผลิตในประเทศไทย ไม่ได้เน้นการนำเข้า เราก็มองว่าเป็นสิ่งที่ดี และควรส่งเสริมให้มีการผลิตสินค้าไทยมากขึ้น"นางปัทมา กล่าวกับ"อินโฟเควสท์"
ทั้งนี้บริษัทฯมั่นใจรายได้ปีนี้จะเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ได้ที่คาดว่าจะเติบโตไม่ต่ำกว่า 30% จากปีก่อนที่ทำได้ 1,386.25 ล้านบาท เนื่องจากแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 2/57 ยังอยู่ในเกณฑ์ที่ดี จากการทยอยรับรู้รายได้ของการผลิตและส่งออกแผงและแผ่นเซลล์แสงอาทิตย์บางส่วน และจะสามารถรับรู้รายได้เข้ามาเต็มปีในช่วงไตรมาส 3/57 รวมถึงรับรู้รายได้งานก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ของบมจ.บางจากปิโตรเลียม (BCP) เข้ามาอีกด้วย