(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้ขึ้นไปต่อ ลุ้นทดสอบ 1,500 ความเสี่ยงสหรัฐขึ้นดบ.ต่ำ

ดังนั้นความเสี่ยงในเรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯจึงอยู่ในระดับต่ำ และทำให้ตลาดเอเชียดูดีขึ้น โดยตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้มีการเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ

อย่างไรก็ดี ในช่วงสั้นเมื่อมองที่สัญญาณทางเทคนิคของตลาดฯจะเห็นได้ว่าเมื่อดัชนีฯเข้าใกล้ระดับ 1,500 จุด ในทางจิตวิทยาก็มีความกังวลอยู่เหมือนกัน ทำให้ตลาดฯอาจมีพักตัวบ้าง แต่ทั้งนี้ตลาดบ้านเรายังมี discount เมื่อเทียบกับตลาดเอเชียและอาเซียนอยู่

พร้อมให้แนวรับ 1,497-1,500 จุด ส่วนแนวต้าน 1,485 จุด

ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :

• ตลาดหุ้นนิวยอร์คล่าสุด(2 ก.ค.)ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 16,976.24 จุด เพิ่มขึ้น 20.17 จุด (+0.12%), ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 1,974.62 จุด เพิ่มขึ้น 1.30 จุด(+0.07%), ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 4,457.73 จุด ลดลง 0.92 จุด(-0.02%)
• ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้านี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 65.37 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ ลดลง 7.79 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 3.98 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ ลดลง 16.18 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 0.71 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 1.51 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ ลดลง 1.38 จุด และดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 1.70 จุด
• ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด(2 ก.ค.) ที่ 1,491.81 จุด เพิ่มขึ้น 6.06 จุด (+0.41%)
• นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 558.28 ล้านบาท เมื่อวันที่ 2 ก.ค.57
• ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนส.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด(2 ก.ค.)ที่ 104.48 ดอลลาร์/บาร์เรล

• ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด(2 ก.ค.)ที่ 4.96 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
• เงินบาทเปิด 32.37/38 รอดูตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐ
• กนง.จับตาผลกระทบปัญหาแรงงาน "ต่างด้าว-บัญชีค้ามนุษย์" ชี้เป็นความเสี่ยงต้องติดตามใกล้ชิด หวั่นกระทบภาคอุตสาหกรรม-ส่งออก ด้านภาคเอกชนตั้งทีมทำงานศึกษาผลกระทบ เตรียมเสนอประชุมกรอ.นัดแรก 16 ก.ค. นี้ เสนอ "บีโอไอ" ต่ออายุใช้แรงงานต่างด้าวที่จะสิ้นสุดปีนี้ ขณะเดียวกันเตรียมเดินทางพบธุรกิจสหรัฐ ชี้แจงความเข้าใจ เชื่อปีหน้าอันดับบัญชีค้ามนุษย์ขยับขึ้น
• คสช. เห็นชอบมาตรการฟื้นฟูความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจ ต่ออายุลดภาษี 3 ประเภท "บุคคลธรรมดา-นิติบุคคล-แวต" ในอัตราเดิมอีก 1 ปี พร้อมตรึงราคารถไฟใต้ดินถึง ต.ค. นี้อนุมัติงบช่วยชาวนา 4.8 พันล้านผ่าน ธ.ก.ส. และติดตั้งโซลาร์เซลล์บ้านเรือน ไม่ต้องขอใบอนุญาต รง.4
• ค่ายรถมั่นใจไตรมาส 3 ตลาดฟื้นตัวหลังเงินไหลเข้าสู่ระบบ ทั้งจำนำข้าวนโยบายอุดหนุนชาวสวนยาง-มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ดึงความเชื่อมั่นผู้บริโภคกลับคืน อีซูซุ ระบุเลิกกังวลสถานการณ์การเมือง ทาทายังเดินหน้าลงทุนไทยด้านงาน ฟาสต์ ออโต้โชว์ เปิดฉากอัดแคมเปญดันยอดขายทะลุ 4 พันคัน
• นายอุดม วงศ์วิวัฒน์ไชย เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการพิจารณากลั่นกรองโครงการส่งเสริมการลงทุน ซึ่งถือเป็นการประชุมนัดแรกว่า ที่ประชุมได้พิจารณากลั่นกรองคำขอรับส่งเสริมของโครงการลงทุนขนาดใหญ่ที่เอกชนยื่นขอรับส่งเสริมการลงทุนเสร็จสิ้นแล้วรวม 9 โครงการ มูลค่าลงทุน 28,093 ล้านบาท
• 'เมฆินทร์' ชะลอเดินหน้าขยายสนามบินสุวรรณภูมิเฟส 2 วงเงิน 6.2 หมื่นล้านบาท สนองนโยบาย คตร.ที่มีการตรวจสอบทบทวนโครงการ พร้อมปรับแบบให้ชัดเจน โปร่งใส ยันจำเป็นต้องเพิ่มขีดความสามารถ หลังผู้โดยสารทะลุ 51 ล้านคนต่อปี เร่งปรับปรุงดอนเมือง รับเพิ่ม 30 ล้านคน ยอมรับปีนี้โตแค่ 2-3%
• รายงานข่าวจากกรมธุรกิจพลังงาน(ธพ.) แจ้งปริมาณความต้องการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงภายในประเทศและการนำเข้าเดือนพฤษภาคม 2557 ว่า เดือนพฤษภาคม 2557 ไทยมีการนำเข้าน้ำมันดิบและน้ำมันสำเร็จรูปรวมทั้งสิ้นปริมาณ 4,677 ล้านลิตร คิดเป็นมูลค่า 102,727 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนเมษายน จำนวน 9,598 ล้านบาท ทำให้การนำเข้าน้ำมันดิบและน้ำมันสำเร็จรูปรวม 5 เดือนแรกของปีนี้ (มกราคม-พฤษภาคม 2557) ปริมาณ 22,272 ล้านลิตร คิดเป็นมูลค่าที่ 498,376 ล้านบาท

สำหรับการใช้ในประเทศเดือนพฤษภาคมมีปริมาณรวมทั้งสิ้น 4,392 ล้านลิตร เฉลี่ยวันละ 141.7 ล้านลิตร หรือ 891,115 บาร์เรลต่อวัน โดยกลุ่มน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว (น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว น้ำมันดีเซลพื้นฐาน) มีความต้องการใช้สูงสุด วันละ 60.8 ล้านลิตร หรือคิดเป็น 42.9% รองลงมาคือก๊าซปิโตรเลียมเหลว (แอลพีจี) วันละ 20.8 ล้านกิโลกรัม หรือ 27.2% กลุ่มน้ำมันเบนซินวันละ 23.0 ล้านลิตร หรือ 16.3% กลุ่มน้ำมันอากาศยานวันละ 13.6 ล้านลิตร หรือ 9.6% และน้ำมันเตาวันละ 5.6 ล้านลิตร หรือ 4% เป็นต้น

*หุ้นเด่นวันนี้

• SIM(เมย์แบงก์ กิมเอ็ง)"ซื้อเก็งกำไร"เป้า 4.60 บาท SAMART รายงานตลาดวานนี้ช่วงเย็น ว่าได้ลงนามสัญญาซื้อหุ้น SIM จำนวน 1,053 ล้านหุ้น หรือ คิดเป็น 23.93% คืนจาก Axiata Group Berhad ในราคาหุ้นละ 2.73% โดยจะดำเนินการผ่านตลท.ให้แล้วเสร็จใน 30 วัน และส่งผลให้ SAMART ถือหุ้นใน SIM เพิ่มขึ้นเป็น 74.1% จึงคาดว่าราคาหุ้น SIM จะตอบรับเชิงบวก เนื่องจากการปรับตัวลงตั้งแต่ช่วงกลางเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา จากบริเวณ 3.40 บาท จากความกังวลว่า Axiata Group Berhad ที่มีแผนลดสัดส่วนการลงทุนลง อาจขายหุ้นออกมาในกระดาน ดังนั้น การเซ็นสัญญาขายหุ้นทั้งจำนวนให้กับ SAMART จะส่งผลให้ Overhang ดังกล่าวสิ้นสุดลง พร้อมคาดกำไรสุทธิ 2Q57 ทำระดับสูงสุดใหม่ที่ 290-300 ล้านบาท เติบโตจากแรงหนุนของยอดขายโทรศัพท์ Digital TV และ Smartphone ที่ได้ประโยชน์จากการเกิดเทคโนโลยี 3G
• AAV(เมย์แบงก์ กิมเอ็ง)"ซื้อเก็งกำไร"เป้า 5.10 บาท คาดหุ้นกลุ่มสายการบินจะตอบรับเชิงบวก หลังราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกเริ่มปรับตัวลง เนื่องจากสถานการณ์ในอิรักเริ่มทรงตัว และลีเบียมีโอกาสกลับมาส่งน้ำมันอีกครั้ง หลังกลุ่มกบฏอนุญาตให้ท่าเรือ 2 แห่งกลับมาเปิดดำเนินการได้ และผลประกอบการกำลังจะผ่านพ้นจุดต่ำสุดแล้วใน 1H57 และเข้าสู่ทิศทางฟื้นตัวใน 2H57 จากปัจจัยการเมืองที่เริ่มนิ่ง และนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐ พร้อมคาดกำไรปกติปี 2557 จะเติบโต +13.5% yoy เป็น 891 ล้านบาท และขยายตัวโดดเด่นในปี 2558 ถึง +84.6% yoy เป็น 1,644 ล้านบาท
• SAMART(เคเคเทรด)"ซื้อ"เป้า 26.90 บาท การเข้าไปถือหุ้น SIM เพิ่มเป็น 74% มีผลตั้งแต่ 3Q57 เป็นต้นไป จะช่วยลดผลกระทบจากการขาดงานโครงการ IT ใหม่ๆของ SAMTEL คาดว่ากำไรสุทธิปี 2557-2558 ของ SAMART จะเติบโตเฉลี่ย 20% เด่นสุดในกลุ่มสื่อสารขนาดใหญ่ที่ศึกษา ขณะที่ราคาหุ้น SAMART ถือว่ายังถูกเมื่อเทียบกับกลุ่ม โดยซื้อขายที่ระดับ PE ปี 2557 ที่ 11.5 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยหุ้นสื่อสารขนาดใหญ่ที่เราศึกษาที่ 18 เท่า
• SVI(ดีบีเอส วิคเคอร์ส)"ซื้อ"เป้า 4.90 บาท คาดว่ายอดขาย 2Q57 จะดีขึ้นเป็น 73 ล้านUS$ เทียบกับ YoY และ QoQ ที่ 58 และ 64 ล้านUS$ ตามลำดับ และได้ค่าเคลมประกันเข้ามาอีก 100 ล้านบาทใกลักับ 1Q57 ทำให้กำไรสุทธิ 2Q57 จะเติบโต 56%YoY และ 13%QoQ เป็น 212 ล้านบาท บริษัทได้ลูกค้าใหม่ในกลุ่มยานยนต์ 2 ราย โดยจะมียอดขายสูงถึงรายละ 100 ล้านUS$/ปี และจะมีการเข้าซื้อกิจการ(สรุปใน 3Q57)โดยคาดว่ากำไรหลักปีนี้และปีหน้าเพิ่มก้าวกระโดดเทียบ y-o-y เป็น 36% และ 34% ตามลำดับ คาดการณ์อัตราผลตอบแทนปันผลอยู่ในเกณฑ์ดีที่ 4% ด้านฐานะการเงินดีมาก เป็นเงินสดสุทธิ