ส่วนหุ้น SIM อยู่ที่ 3.24 บาท เพิ่มขึ้น 0.08 บาท(+2.53%)มูลค่าซื้อขาย 115.24 ล้านบาท
บมจ.สามารถคอร์ปอเรชั่น(SAMART)ซื้อหุ้นบมจ.สามารถ ไอ-โมบาย(SIM) จำนวน 1,053 ล้านหุ้น (หรือคิดเป็น 23.93%) คืนจากบริษัท Axiata Group Berhad (AXIATA หรือเดิม คือ เทเลคอมมาเลเซีย) ในราคาหุ้นละ 2.73 บาท เมื่อ 2 ก.ค.57 โดยจะดำเนินการผ่านตลาดหลักทรัพย์ฯ ให้เสร็จภายใน 30 วัน หลังจากนั้น SAMART จะถือหุ้นใน SIM 74.11%
บล.ดีบีเอส วิเคอร์ส(ประเทศไทย)ประเมินว่า นับเป็นบวกกับ SAMART ที่จะรับรู้กำไรจาก SIM มากขึ้นตั้งแต่กลาง 3Q57 เป็นต้นไป เพราะสัดส่วนการถือหุ้นเพิ่มขึ้นจาก 50.18% เป็น 74.11% คาดว่า SIM จะมีกำไรสุทธิเติบโตแข็งแกร่งราว 20% ในปีนี้ และเติบโตต่อประมาณ 10% ในปีหน้า ส่วนการดำเนินธุรกิจของ SIM คาดว่าจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ
ในเชิงกลยุทธ์ ยังคงแนะนำซื้อ SAMART ราคาเป้าหมาย 27.5 บาท สำหรับ SIM ระยะสั้นราคาหุ้นอาจถูกกระทบจากการที่ราคาซื้อขายระหว่าง SAMART กับ AXIATA ที่ 2.73 บาท ซึ่งต่ำกว่าราคาตลาด 13.6% อย่างไรก็ตาม ราคาตามปัจจัยพื้นฐานของ SIM อยู่ที่ 4.05 บาท ดังนั้นถ้าราคาหุ้นปรับลดลงมาก็เป็นโอกาสซื้อ
ส่วน บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง(ประเทศไทย)แนะ"ซื้อเก็งกำไร"หุ้น SIM ราคาเหมาะสม 4.60 บาท SAMART รายงานตลาดวานนี้ช่วงเย็น ว่าได้ลงนามสัญญาซื้อหุ้น SIM จำนวน 1,053 ล้านหุ้น หรือ คิดเป็น 23.93% คืนจาก Axiata Group Berhad ในราคาหุ้นละ 2.73% โดยจะดำเนินการผ่านตลท.ให้แล้วเสร็จใน 30 วัน และส่งผลให้ SAMART ถือหุ้นใน SIM เพิ่มขึ้นเป็น 74.1% จึงคาดว่าราคาหุ้น SIM จะตอบรับเชิงบวก เนื่องจากการปรับตัวลงตั้งแต่ช่วงกลางเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา จากบริเวณ 3.40 บาท จากความกังวลว่า Axiata Group Berhad ที่มีแผนลดสัดส่วนการลงทุนลง อาจขายหุ้นออกมาในกระดาน ดังนั้น การเซ็นสัญญาขายหุ้นทั้งจำนวนให้กับ SAMART จะส่งผลให้ Overhang ดังกล่าวสิ้นสุดลง
พร้อมคาดกำไรสุทธิ 2Q57 ทำระดับสูงสุดใหม่ที่ 290-300 ล้านบาท เติบโตจากแรงหนุนของยอดขายโทรศัพท์ Digital TV และ Smartphone ที่ได้ประโยชน์จากการเกิดเทคโนโลยี 3G