กองทุนทั้งสองดังกล่าวเน้นลงทุนผ่านกองทุน Invesco Continental European Small Cap Equity Fund ที่ได้รับการจัดอันดับ 3 ดาวจาก Morningstar (ข้อมูล ณ วันที่ 30 พฤษภาคม 2557) จัดตั้งและบริหารจัดการโดยบริษัท Invesco Asset Management Limited เป็นบริษัทจัดการกองทุนชั้นนำที่มีความเชี่ยวชาญในการบริหารกองทุนมากกว่า 250 ปี มีสินทรัพย์รวมภายใต้การบริหารทั้งหมด (AUM) กว่า 787,300 ล้านดอลลาห์สหรัฐ (ณ วันที่ 31 มีนาคม 2557) เป็นผู้นำในการลงทุนในหุ้นยุโรปขนาดเล็กโดยบริหารกองทุนหลักประสบความสำเร็จ ได้รับการจัดอันดับ 3 ดาวจากมอร์นิ่งสตาร์ (ข้อมูล ณ วันที่ 30 พฤษภาคม 2557) ด้วยผลตอบแทนสะสมในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาสูงถึง 230.52% เมื่อเทียบกับเกณฑ์มาตรฐาน Euromoney Smaller Europe ex UK Index ที่ 85.49%* ซึ่งสูงกว่าดัชนีเปรียบเทียบอย่างมีนัยสำคัญโดยตลอด
แนวโน้มเศรษฐกิจยุโรปมีสัญญาณที่ดีในการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องจากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจและนโยบายผ่อนคลายทางการเงินเพิ่มเติมของธนาคารกลางยุโรป โดยล่าสุดธนาคารกลางยุโรปได้ออกมาตรการ T-LTRO ที่สนับสนุนการปล่อยสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำซึ่งจะทำให้มีเม็ดเงินใหม่เข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ ส่งผลบวกต่อการลงทุนในหุ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งหุ้นขนาดเล็กที่ได้รับผลประโยชน์และมีระดับราคาที่ค่อนข้างถูกเมื่อเทียบกับศักยภาพการทำกำไร
ในช่วงปีที่ผ่านมาเศรษฐกิจยุโรปมีแนวโน้มฟื้นตัวจากตัวเลขภาคการผลิตที่ยังขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ตามความคาดหวังของนักลงทุนว่าผลจากการที่ธนาคารกลางยุโรปได้ออกมาตรการ T-LTRO หรือการให้เงินกู้อัตราดอกเบี้ยต่ำเพื่อปล่อยกู้ธุรกิจโดยตรงจะมีโอกาสทำให้เม็ดเงินใหม่เข้าสู่ระบบเศรษฐกิจและตลาดทุนในยุโรปกว่า 1 ล้านล้านยูโร หรือ 42 ล้านล้านบาท ในอีก 24 เดือนข้างหน้า ส่งผลดีต่อสภาพคล่องและสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยง และธนาคารกลางยุโรปมีแนวโน้มในการคงอัตราดอกเบี้ยในระดับต่ำต่อไป ซึ่งปัจจุบันดอกเบี้ยเงินฝากอยู่ที่ -0.10% ส่งผลให้นักลงทุนหันมาเลือกลงทุนในหุ้นซึ่งเป็นการสนับสนุนการเพิ่มขึ้นของราคาหุ้นได้เป็นอย่างดี โดยตั้งแต่ต้นปีตลาดหุ้นยุโรปมีเงินทุนไหลเข้ามากที่สุดในโลกเป็นจำนวนกว่า 4 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ
นอกจากนี้กำไรของบริษัทจดทะเบียนในตลาดยุโรปยังอยู่ในระดับต่ำกว่าจุดสูงสุดในปี 2551 กว่า 33% และราคาของหุ้นยุโรป (P/E ratio) ยังคงอยู่ในระดับต่ำ ทำให้มีโอกาสในการขยายตัวของกำไรได้อีก โดยเฉพาะหุ้นขนาดเล็กที่สามารถสร้างผลตอบแทนได้ดีกว่าหุ้นขนาดใหญ่อย่างมีนัยสำคัญในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา และเติบโตได้ดีในภาวะเศรษฐกิจที่อยู่ในช่วงฟื้นตัวซึ่งสอดคล้องกับสภาวะเศรษฐกิจยูโรปในปัจจุบัน
“จากปัจจัยดังกล่าว บลจ.ยูโอบี (ประเทศไทย) เชื่อมั่นว่าช่วงนี้จึงนับเป็นจังหวะเวลาที่น่าสนใจที่จะเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในตลาดหุ้นยุโรป บลจ.ยูโอบี (ประเทศไทย) มีความมั่นใจที่นำเสนอขายกองทุนทริกเกอร์ประเทศยุโรปทั้งสองกองเพื่อตอบโจทย์นักลงทุนที่คาดหวังผลตอบแทนที่ดีตามเป้าหมายที่กำหนดของกองทุนในช่วงภาวะตลาดยุโรปฟื้นตัว" นางสาวณัชชา กล่าว